ต้มยำไข่เจียว อาหารไทยอร่อยๆ พร้อม 3 เคล็ดลับวิธีทำต้มยำ

 ต้มยำไข่เจียว อาหารไทย เมนูต้มยำ วิธีทำต้มยำไข่เจียวทำอย่างไร อาหารง่ายๆทำกินเองได้ ไข่เจียวกรอบๆ เมนูไข่ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำไม่ยาก กับข้าวไทยอร่อยๆ

อาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ สุดยอดอาหารไทย คือ ต้มยำ แต่ไส่ไข่เจียวด้วย ต้มยำไข่เจียว เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ อาหารไทย เมนูไข่เจียว ผสมกับ ต้มยำ รสชาติของต้มยำ และ ไข่เจียว เข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ไข่ไก่ ทำเป็น เมนูแกง ได้หรือไม่ เมนูต้มยำไข่เจียว เป็น คำตอบสำหรับ คำถามนี้

ต้มยำไข่เจียว สูตรอาหารไทย เมนูไข่ แบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบ เมนูไข่

ส่วนผสมสำหรับทำต้มยำไข่เจียว

    ไข่ไก่ 2 ฟอง
    เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม เห็ดฟาง และ เห็ดแชมปิญอง สดรวมกัน 100 กรัม
    ข่าแก่ หั่นเป็นแว่นบุบพอแตก 3 แว่น
    ตะไคร้ หั่นแฉลบ 1 ต้น
    ใบมะกรูด ฉีก 3 ใบ
    หอมแดง บุบ 2 หัว
    พริกขี้หนู แดงบุบ 1 ช้อนโต้ะ
    นมข้นจืด 1 ช้อนโต้ะ
    น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำซุป 3 ถ้วย
    น้ำมันพืช สำหรับทอด
    ใบผักชี สำหรับตกแต่ง

วิธีทำต้มยำไข่เจียว

    ตอกไข่ไก่ ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนด้วยไฟกลางจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้นตามชอบ พักไว้
    ตั้ง น้ำซุป ด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และ หอมแดง ลงต้มสักพัก ตามด้วยเห็นทั้งหมด ต้มต่อจนสุกดี
    ค่อย ๆ เติมนมข้นจืด รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่น้ำพริกเผา ปรุงรสด้วย น้ำปลา ปิดเตา เติม น้ำมะนาว และ พริกขี้หนู ลงคนพอเข้ากัน
    จัด ไข่เจียว ใส่ชามเสิร์ฟ ราด น้ำต้มยำ ให้ท่วม ตกแต่งด้วยใบผักชีให้สวยงาม รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ กับข้าวไทย พร้อมวิธีทำ ต้มยำ กับ ไข่เจียว

เคล็ดลับการทำต้มยำไข่เจียว

    การทอดไข่เจียว ให้ฟูกรอบ นั้น ให้ตีไข่ให้เกิดฟอง เมื่อเกิดฟองภายใน เวลาทอด ไข่จะฟูกรอบ สวยงาม
    น้ำมัน สำหรับใช้ในการทอดไข่ ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่านำน้ำมันเก่ามาใช้ทอดไข่ เนื่องจาก น้ำมันเก่า จะทำให้อาหารที่กลิ่น ไม่อร่อย
    น้ำมะนาว สำหรับ ปรุงรส ต้มยำ นั้น ให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากปิดไฟ เนื่องจาก น้ำมะนาว หากโดนความร้อน จะทำให้มีรสขมไม่น่ารับประทาน
 

ขนมปังกระเทียม(garlic Bread)

วันก่อนมีน้องคนหนึ่งมาขอให้ทำขนมปังกระเทียม
ทำง่ายๆอร่อยๆอย่างนี้แม่ปูไม่มีพลาด
ปรกติเวลาทำขนมปังกระเทียม
แม่ปูมักจะใช้ขนมปังฝรังเศส หรือขนมปังบาเก็ต
บางทีก็หั่นสไลด์เป็นชิ้นๆ บางครั้งรีบๆก็หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ
ชิ้นใหญ่ๆนั้นปาดๆทีเดียวแล้วค่อยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆทีหลังอีกครั้งหนึ่ง
แบบไหนก็อร่อยค่ะ แม่ปูใช้เนยเค็มละลาย
ชอบกลิ่นน้ำมันมะกอกก็ผสมน้ำมันมะกอกลงไปด้วย
แม่ปูใช้แบบEXTRA VIRGIN บางคนอาจว่ากลิ่นแรงไป
ก็ใช้แบบธรรมดาก็ได้ค่ะ แต่แม่ปูชอบหอมดีจัง
เนยกับน้ำมันมะกอกผสมในอัตราส่วนเท่าๆกัน
ใครชอบเนยอย่างเดียว ใช้เนยจะเนยจืดจะเค็มก็แล้วแต่ใจชอบ
ใช้เนยเค็มรสชาติดข้มข้นอร่อยดีค่ะ
ใครจะใช้กระเทียมผงแทนกระเทียมสดก็หอมอร่อยไปอีกแบบค่ะ

ปรกติขนมปังกระเทียมจะอร่อยได้รสชาติกรอบนอกนุ่มใน
ต้องรับประทานร้อนๆกลิ่นหอมกรุ่นออกจากเตาอบใหม่ๆ

ขนมปังกระเทียม

ขนมปังฝรั่งเศส ๑ ก้อน(หรือแถว??)
กระเทียมสับ ๒ ช้อนโต๊ะ
เนยละลาย ๕ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก ๕ ช้อนโต๊ะ
ใบพาสลีย์สับ ๓ ช้อนโต๊ะ

*ใบพาสลี่ย์สับนั้น ถ้าหาสดๆไม่ได้ก็สามารถใช้ชนิดแห้งแทนได้
หรือใช้อิตาเลี่ยนซีซึนนิ่งโรยก็ได้ค่ะ หรือไม่ใส่ก็ได้ตามใจชอบ*



เนยละลายผสมน้ำมันมะกอกใส่กระเทียมสับไว้แล้ว
คนส่วนผสมให้เข้ากัน



ใบพาสลีย์สับ เอาไว้โรยหน้า



ขนมปังฝรั่งเศสเปลือกหนาเนื้อนุ่มเคี้ยวอร่อย...



หั่นเป็นชิ้นๆ หนาบางตามชอบ
ถ้าหนาหน่อยอบออกมากรอบนอกนุ่มใน



หั่นแล้วใช้แปรงขนนุ่มๆจุ่มเนยที่ผสมไว้แล้วทาขนมปังให้ทั่วทั้งแผ่น
ทาด้านเดียวก็พอค่ะจากนั้นโรยพาสลีย์สับให้ทั่วอีกครั้งหนึ่ง
วางเรียงในถาดอบ นำเข้าเตาอบ อุณหภูมิ ๓๕0 องศาฟาเรนไฮน์
อบนานประมาณ ๑๕ นาที พอขอบขนมปังเริ่มออกสีเหลืองสวย
ก็ยกถาดขนมปังกระเทียมออกจากเตาอบ
ตอนนี้ในครัวกลิ่นจะหอมมากๆเลยค่ะ
หอมทั้งเนยหอมทั้งกระเทียม ต่อมน้ำลายเริ่มทำงาน
รอไม่ไหวแล้ว เสิร์ฟทันที
แม่ปูชอบกินกับสปาเก็ตตี้ค่ะ อร่อยที่ซู้ดดด



ทาเนยกับกระเทียม โรยด้วยพาสลี่ย์สับ



อบเสร็จแล้ว กลิ่นหอมยวนยั่ว..



กินไป ถ่ายรูปไป เหอะๆ..พี่เจนนี่ชอบขนมปังกระเทียมมากค่ะ





ถ้ารีบมากก็จับขนมปังผ่าครึ่งทาเนยทั้งชิ้นใหญ่ๆได้เลย
อบแล้วค่อยหั่นเป็นชิ้นๆทีหลังก็ได้



อบเรียบร้อย ใช้เวลาอบประมาณ ๑๕ นาที



จัดแสดงแบบให้สวยๆ



รูปสุดท้าย



ขอให้มีความสุขจากสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูนะคะ  ที่มา:https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pookhakae

สตูรเมี่ยงทะเล

 

ทานเมี่ยงทะเลกันค่ะ
- ปูแกะกระดอง ล้างน้ำให้สะอาดสัก 3 น้ำ
- กุ้งแชบ๊วย แกะเปลือกกุ้งเด็ดหัวกุ้งหางออกแล้วเอาเส้นสีดำออก ล้างน้ำให้สะอาด ซัก 3 น้ำแล้ว
- เส้นหมี่ขาว ลวกให้สุกแล้วนำไปแช่น้ำเย็น แล้วตักขึ้นพักไว้
- กระเทียมเจียว
#วิธีทำ ตั้งน้ำให้เดือดใส่ตะไคร้ใบมะกรูดลงไป นำกุ้งลงไปลวกพอกุ้งสุกแล้วนำไปกุ้งลงไปน็อคในน้ำเย็นแล้วตักขึ้นพักไว้
- นำปูไปนึ่งใช้เวลา 8 ถึง 10 นาทีจ้า
#วิธีทำน้ำจิ้ม
- พริกสด
- กระเทียมไทย
- ผักชีไทย
- ถั่วลิสงคั่ว
- น้ำตาลมะพร้าว
- มะนาว
- น้ำปลา
#วิธีทำน้ำจิ้ม โขลกพริก กระเทียม ถั่วลิสงคั่ว ผักชีไทยให้เข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว มะนาว น้ำปลา ชิมรสให้ได้รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม หรือตามใจชอบค่ะ
#ผักเคียง
ผักกาดหอม ต้นหอมไทย ผักชีฝรั่ง โหระพา แตงกวา สาระแน
นำไปทุกอย่างไปจัดจานพร้อมเสิร์ฟค่ะ
CF. ธัญญา โทมนัส?

วิธีทำไส้ย่าง สูตร ไส้ย่าง ไม่ขมเคี้ยวง่ายอร่อยเด็ด กับแกล้มชั้นดี

 เมนูกับแกล้มที่ขึ้นชื่อและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน คงหนีไม่พ้น ไส้ย่าง กลิ่นหอมๆ กับไส้นิ่มๆ เคี้ยวง่าย ไม่เหนียว เมนูสุดฮิตขึ้นชื่อของใครหลายคน แต่จะหาซื้อไส้ย่างจากร้านค้าเจ้าที่อร่อยถูกใจ ไส้สะอาดไม่ขม ก็ดูจะยุ่งยากอยู่เหมือนกัน วันนี้เรามาแนะนำวิธีทำเมนูไส้ย่าง ฉบับทำเองไม่ง้อร้านอาหารกันดีกว่าค่ะ ก่อนอื่นสิ่งที่เราจะต้องรู้ก่อนการเลือกซื้อไส้อ่อน ซึ่งแน่นอนว่าไส้นั้นจะมีทั้งส่วนที่ขมและไม่ขม โดยไส้อ่อนเมื่อผ่ามาแล้วหากน้ำข้างในเป็นสีเหลืองจะเป็นไส้ขม แต่หากน้ำเป็นสีขาวขุ่นส่วนนี้จะเป็นไม่มีรสขม ดังนั้นการเลือกไส้จะต้องพิจารณาให้ดีและนอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือการเลือกไส้ที่มีความสดและเป็นสีชมพูอ่อนๆ จนเห็นเป็นเส้นเลือดของผนังลำไส้ รับรองว่าเมื่อเลือกซื้อตามวิธีนี้จะได้ไส้ที่สด สะอาด และไม่ขมอย่างแน่นอน

สำหรับขั้นตอนการล้างไส้เพื่อนำไปทำไส้ย่าง ควรจะต้องมีความใส่ใจอย่างมาก เพราะการที่ไส้จะขมไม่ขม นอกจากการเลือกซื้อแล้วการล้างก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะการล้างที่สะอาดจะช่วยให้ดับกลิ่นคาวภายในไส้ออกได้เป็นอย่างดี

วิธีการล้างไส้อ่อน

1. เมื่อซื้อไส้อ่อนมาจากตลาด ให้นำไส้อ่อนมาตัดพังผืดสีขาวๆ ระหว่างไส้ออกให้หมด
2. ใช้น้ำสะอาด กรอกใส่เข้าไปภายในไส้ หลังจากนั้นให้ใช้มือขยำเพื่อดึงเอาคราบสกปรกที่อยู่ภายในไส้ออกมาให้มากที่สุด หลังจากนั้นใช้น้ำสะอาดกรอกใส่เข้าไปและทำตามขั้นตอนนี้อีก 2-3 ครั้ง จนกว่าน้ำภายในไส้จะใส
3. นำใส่มากลับให้ส่วนด้านนอกเข้าด้านในและดึงด้านในออกมาข้างนอก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดและขยำเพื่อให้คราบสกปรกที่หลงเหลือออยู่ออกมาให้หมด
4. ใส่เกลือประมาณ 1 ถ้วยตวง และน้ำส้มสายชู ปริมาณเท่ากัน ลงไปในอ่างล้างไส้
5. จากนั้นขยำไส้อ่อนหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ล้างคราบเมือก และกลิ่นคาวออกให้หมด จนได้ไส้ที่สะอาดดีไม่มีคราบเมือก
6. ล้างไส้อ่อนด้วยน้ำสะอาด อีก 2-3 น้ำ และแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้กลิ่นที่หลงเหลืออยู่ออกจนหมด

การปรุงน้ำซอสสำหรับหมักไส้อ่อน

วัตถุดิบปรุง ไส้ย่าง

• พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
• เม็ดผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
• รากผักชี 2 ราก
• น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ ไส้ย่าง

1. ตั้งหม้อด้วยไฟแรง ใส่เกลือลงไป
2. นำไส้อ่อนที่ล้างสะอาดแล้วใส่ลงไปในหม้อต้ม
3. ต้มด้วยไฟกลางจนไส้อ่อนพอสุก ขั้นตอนนี้ไม่ควรต้มนานเพราะไส้จะเปื่อยเกินไป
4. เมื่อไส้อ่อนเริ่มสุกให้ตักขึ้นพักไว้
5. โขลกรากผักชี เม็ดผักชี และพริกไทยให้ละเอียด
6. ใส่น้ำตาลมะพร้าว ลงไปตำให้เข้ากันดีกับเครื่องที่โขลกไว้
7. เติมน้ำมันหอย และซีอิ้วขาวลงไป จากนั้นคลุกเคล้าเครื่องโขลกทุกอย่างให้เข้ากันดี
8. ชิมรสตามชอบ หลังจากนั้น นำน้ำซอสที่โขลกไว้เทใส่อ่างผสม
9. นำไส้ที่ตักพักไว้ลงในอ่างผสม คลุกเคล้าไส้กับน้ำซอสให้เข้ากันดีจากนั้นหมักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อไส้อย่างทั่วถึง
10. ขั้นตอนการย่างให้ใช้เตาถ่านและย่างด้วยไฟปานกลาง ให้ไส้ค่อยๆ สุก กรอกนอก นุ่มใส ไม่แห้งกระด้าง
11. ตักใส่จาน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมเสิร์ฟ

เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับเมนู ไส้ย่าง ฉบับทำเอง ที่รับรองว่าไม่ขม ไม่คาวอย่างแน่นอน หากใครชื่นชอบเป็นพิเศษสามารถปรับสูตร เพิ่มและลดปริมาณได้ตามชอบค่ะ ไส้อ่อนย่างเหมาะจะทานเป็นเมนูกับแกล้ม หรือใครชอบเอามาเป็นเครื่องเคียงส้มตำ จิ้มข้าวเหนียวร้อนๆ ก็ฟินสุดฉุดไม่อยู่เช่นกันค่ะ

สูตรวิธีทำ ปลาหมึกย่าง เนื้อเด้งสู้ลิ้น ขายเป็นอาชีพได้

หลายคนคงชื่นชอบ ปลาหมึกย่าง เมนูกรุบกรอบ เนื้อเด้งสู้ลิ้น เหมาะสำหรับกับแกล้ม หรือใครอยากทำขายเป็นอาชีพก็ไม่ยาก แต่อย่าลืมว่าเมนูปลาหมึกหากไม่ได้ล้างทำความสะอาดให้ดีจะทำให้ปลาหมึกมีกลิ่นคาวได้ ดังนั้นวันนี้จึงมีเมนูการทำปลาหมึกย่าง รวมถึงวิธีการทำมาให้ลองกันค่ะ

ก่อนที่จะมาเริ่มทำปลาหมึก อยากจะแนะนำขั้นตอนการเลือกซื้อปลาหมึกกันก่อน โดยต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่สด สะอาดปลอดภัย สิ่งแรกที่ต้องสังเกตคือตาของปลาหมึก หากหมึกสดจะมีตาที่ใสไม่ขุ่น มีลูกตาที่ใสแจ๋วตาดำชัดเจน อันนี้รับรองว่าได้ปลาหมึกสดแน่นอน และที่สำคัญปลาหมึกเนื้อต้องแน่น ดังนั้นเมื่อลองเลือกซื้อให้ลองจับ หากจิ้มลมไปแล้วเนื้อเด้งไม่ย้วย ก็รับประกันได้ว่าปลาหมึกสดแน่นอน

วิธีทำ ปลาหมึกย่าง ให้อร่อยจนข้างบ้านต้องขอสักไม้

1. นำปลาหมึกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า
2. ให้เอากระดองหมึกใสๆ ที่เป็นแกน และถุงน้ำหมึกออกให้เรียบร้อย
3. หลังจากนั้นให้นำมีดหั่นตรงส่วนตาของหมึก ออกทั้งสองข้าง
4. ในส่วนหัวหมึกให้เอามีดบั้งเล็กน้อยเพื่อเอาฟันหมึกออก แต่สำหรับใครที่ชอบทานก็ไม่ต้องเอาออกก็ได้นะคะ
5. ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
6. ใช้เกลือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดลงไปผสมในอ่างหมึก จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ในขั้นตอนนี้พยายามทำความสะอาดหมึก ทีละตัวจนสะอาดแล้วล้างออก
7. ล้างน้ำแป้งและเกลือออกให้หมด
8. ใส่น้ำแข็งลงไปเพื่อน็อคเนื้อหมึกให้มีเนื้อเด้งกรุบ จากนั้นล้างออก
9. ใช้น้ำปูนใส ผสมลงไปในอ่างหมึก จากนั้นขยำเล็กน้อย เพื่อให้น้ำปูนใสช่วยให้เนื้อหมึกเด้งกรุบมากยิ่งขึ้น
10. ล้างน้ำสะอาดอีกรอบ และพยายามเช็คหมึกแต่ละตัวเพื่อไม่ให้มีคราบแป้งหรือน้ำปูนใสตกค้าง
11. จากนั้นนำปลาหมึกมาเสียบไม้ โดยไม้ที่จะใช้เสียบปลาหมึกแนะนำให้แช่น้ำไว้ก่อนอย่างน้อยสัก 10 นาที เพื่อให้ไม้ชุ่มน้ำก่อน เวลาเอาไปย่างจะได้ไม่ไหม้
12. จากนั้นเทน้ำลงไปในอ่างหมึกที่เสียบไม้เอาไว้ และบีบมะนาวลงไป 1-2 ลูก และคลุกเคล้าปลาหมึกกับน้ำมะนาวทิ้งไว้สัก 10-15 นาที ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เนื้อหมึกเด้ง หนึบ คงความสดไว้ได้มากยิ่งขึ้น จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

เมื่อเราได้เนื้อปลาหมึกที่สดเด้งกรุบแล้ว แนะนำให้ใช้การย่างด้วยเตาถ่าน ปลาหมึกย่าง ที่มีกลิ่นเตาถ่านหอมๆ โดยขั้นตอนการย่าง สามารถเลือกได้ตามชอบจะเป็นแบบแห้งๆ หรือแบบเนื้อเด้งๆ สุกกำลังดี ก็อร่อยได้ไม่แพ้กัน

แกงหน่อไม้ ใส่เห็ดเยอะกินดีต่อสุขภาพ

 

อีกหนึ่งเมนูดั้งเดิมสูตรอีสานของไทยเราที่รสชาติแซ่บ จัดจ้าน กลมกล่อม เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน นั่นคือ แกงหน่อไม้ หากได้ซดน้ำร้อนๆ ของแกงหน่อไม้ หรือใครที่ยังไม่สนใจจะยกซด ก็สามารถจิ้มกับข้าวเหนียวร้อนๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกเมนูสมุนไพรขึ้นชื่อของทุกภาคในประเทศไทยอย่างแท้จริง เพราะอุดมไปด้วยสมุนไพรไทยดั้งเดิม ที่ช่วยบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างมาก ด้วยส่วนผสมหลักที่มีทั้ง ตะไคร้ ข่า พริก หอมแดง ใบแมงลัก ชะอม ฟักทอง บวบ รวมไปถึงเห็ดนานาชนิด เรียกได้ว่ารวมเอาสุดยอดสมุนไพรไทยมาปรุงเป็นอาหารรสชาติเยี่ยมได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีรสชาติที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว วันนี้เราพามาแนะนำสูตรแกงหน่อไม้ ใส่เห็ด รสชาติจัดจ้านถึงใจ มาจดสูตรกันได้เลย

วัตถุดิบเตรียมทำ แกงหน่อไม้

• หน่อไม้ต้มสุก 500 กรัม
• น้ำใบย่านาง 2 ลิตร
• ใบแมงลัก 1 ถ้วยตวง
• ชะอม 1 ถ้วยตวง
• ฟักทอง ½ ถ้วยตวง
• บวบ ½ ถ้วยตวง
• เห็ดหูหนู ½ ถ้วยตวง
• เห็ดฟาง ½ ถ้วยตวง
• เห็ดนางฟ้า ½ ถ้วยตง
• เห็ดชิเมจิ ½ ถ้วยตวง
• เห็ดเข็มทอง ½ ถ้วยตวง
• ตะไคร้ 2 ต้น
• หอมแดง 4 หัว
• พริกแดงจินดา 10 เม็ด (เพิ่มลดได้ตามชอบ)
• พริกกะเหรี่ยง 5 เม็ด
• ข่าหั่นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวเบือ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลาร้าต้มสุก 2 ทัพพี
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำแกงหน่อไม้

1. นำหน่อไม้มาปอกเปลือกและล้างทำความสะอาด เอาเฉพาะส่วนด้านในที่เป็นสีขาว จากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
2. ตั้งหม้อใช้ไฟแรง แล้วนำหน่อไม้ที่หั่นไว้ลงไปต้มให้สุก ใช้เวลาต้มประมาณ 15 นาที เพื่อให้ความฝาดของหน่อไม้ ออกให้หมด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ แล้วพักไว้
3. นำตะไคร้มาล้างทำความสะอาด ตัดส่วนรากออก แล้วหั่นเป็นแว่นๆ จากนั้นนำมาโขลกให้ละเอียดดี แล้วนำพริกแดงจินดาและหอมแดงลงไปโขลกหยาบๆ ให้เข้ากัน
4. ตั้งหม้อไฟปานกลาง จากนั้นเทน้ำใบย่านางทั้งหมดลงไป แล้วใส่ข่า หน่อไม้ต้มสุกลงไป ต้มไปเรื่อยๆ จนน้ำเดือดแล้วเทส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไป จากนั้นตามด้วยฟักทองและบวบลงไปต้มก่อนเนื่องจากใช้เวลาสุกนาน
5. เติมน้ำปลาร้า น้ำปลา ข้าวเบือ น้ำตาล และเกลือลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
6. สังเกตเมื่อฟักทองและบวบเริ่มนิ่มให้ใส่ใบชะอมและเห็ดทั้งหมดลงไป ตามด้วยใบแมงลักและพริกกะเหรี่ยง จากนั้นต้มไปสักพักให้ผักทุกอย่างสุกนิ่มดี ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ แกงหน่อไม้

สูตรวิธีทำ ตำไทยไข่เค็ม อร่อยเพลิน หวานเผ็ดครบรส

เมนูตำไทยไข่เค็ม เหมาะสำหรับใครที่ชอบความนัวๆ ของไข่เค็ม เข้ากันดีกับรสชาติแซ่บๆ ของตำไทย เป็นหนึ่งเมนูที่คนไม่ชอบทานปลาร้ามักจะสั่งกันบ่อย เพราะเป็นเมนูที่มีความมันๆ นัวๆ จากไข่เค็ม แต่ไม่มีกลิ่นของปลาร้า ให้ความอร่อยไปอีกแบบ

นอกจากนี้ตำไทยไข่เค็มจะต้องเลือกไข่เค็มจากแหล่งผลิตที่ สด สะอาด และไข่แดงใหญ่ เนื้อแน่น จะทำให้ไข่แดงมีความมัน อร่อยมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าได้ไข่แดงสีส้มสด แสดงว่าเป็นไข่แดงที่มันอร่อยนัว เหมาะกับเมนูตำไทยไข่เค็มสุดๆ เลยล่ะค่ะ และอีกหนึ่งเคล็ดลับที่พลาดไม่ได้คือถั่วลิสงคั่ว หากเป็นถั่วลิสงคั่วเอง จะช่วยชูรสชาติให้ตำไทยไข่เค็มหอมส่งกลิ่นหอมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น วันนี้ทางเราจะมาแนะนำสูตรตำไทยไข่เค็ม ผสานความกรุบกรอบของเส้นมะละกอ และความนัวๆ มันๆ จากไข่เค็มรับรองติดใจไม่รู้ลืมแน่นอนค่ะ

วัตถุดิบ ตำไทยไข่เค็ม

• ไข่เค็มอย่างดี 2 ฟอง
• มะละกอขูดฝอย ½ ถ้วยตวง
• แครอทขูดฝอย ½ ถ้วยตวง
• ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 2 ฝัก
• มะเขือเทศท้อลูกเล็ก 3 ลูก
• กระเทียมไทย 3 กลีบ
• พริกขี้หนูสวน 5 เม็ด (เพิ่มลดปริมาณได้ตามชอบ)
• พริกแดงจินดา 5 เม็ด (เพิ่มลดปริมาณได้ตามชอบ)
• ถั่วตัด 1 ช้อนโต๊ะ
• ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลเคี่ยว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
• มะนาว 1 ลูก
• น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
• กุ้งแห้งอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ ตำไทยไข่เค็ม

1. โขลกกระเทียม พริกขี้หนูสวน และพริกแดงจินดาพอแหลกให้เข้ากันดี จากนั้นใส่ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ และถั่วตัด 1 ช้อนโต๊ะ ตำให้ละเอียดจนถั่วตัดละลายเข้ากันดี เพื่อให้มีความหวาน กรุบกรอบ มากยิ่งขึ้น
2. ใส่ถั่วฝักยาวหั่นท่อนลงไปตำให้ถั่วพอแตกฝัก เติมน้ำตาลเคี่ยว น้ำมะขามเปียก น้ำปลาอย่างดี และบีบมะนาวลงไป ตามด้วยกุ้งแห้งอย่างดี จากนั้นใส่มะเขือเทศท้อลูกเล็ก ผ่าซีกตามแนวยาว แล้วตำทุกอย่างให้เข้ากัน ไม่ต้องตำนานมาก เพราะจะทำให้มะเขือเทศเละไม่สวย
3. ใส่แครอทขูดฝอย และมะละกอขูดฝอยลงไป ตามด้วยไข่เค็มอย่างดีเอาเปลือกออก แล้วผ่าแบ่งซีก ในขั้นตอนนี้ให้ใช้ทัพพีคนเบาๆ เพื่อไม่ให้ไข่เค็มเละจนเกินไป จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับเมนู ตำไทยไข่เค็ม ที่มีรสชาติหวานเผ็ด จากถั่วตัด และพริกขี้หนูสวน ครบรสด้วย ความเค็มหน่อยๆ มันๆ นัวๆ จากไข่เค็มแสนอร่อย เป็นเมนูก้นครัวที่ทำทานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก หากใครอยากลองเมนูอร่อยๆ ไม่ผิดหวัง ก็ไปเตรียมตัวเข้าครัวกันได้เลยค่ะ

วิธีทำกุ้งย่าง สูตรเด็ดอร่อย สายเที่ยวไม่ควรพลาด

 

เมนูสายเที่ยวที่ขึ้นชื่อสุดๆ คือ กุ้งย่าง ได้ลิ้มรสเนื้อกุ้ง หวานเด้ง สุดอร่อย กับบรรยากาศชิวๆ ริมทะเลหรือบรรยากาศกลางแจ้งหน้าบ้าน หรือที่ไหนสักแห่ง ด้วยเมนูพิเศษอย่างกุ้งย่างหรือกุ้งเผา ก็ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่เลวเลยทีเดียว ส่วนใครเน้นปิกนิกตั้งแคมป์ แนะนำเมนูกุ้งย่างการันตีได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน สำหรับการเลือกซื้อกุ้ง นอกจากหาซื้อจากแหล่งค้าขายที่สด สะอาดปลอดภัยแล้ว ในการซื้อแนะนำให้ดูที่กุ้งเปลือกแข็งเงาใสและลื่น ส่วนตัวกับส่วนหัวไม่ขาดออกจากกัน เนื้อจะต้องแน่นไม่ย้วย ไม่มีกลิ่นคาวมากจับแล้วไม่นิ่มเกินไปเพราะถ้าจับแล้วเนื้อนิ่มอาจจะเป็นไปได้ว่ากุ้งค้างคืนไม่สด เนื้อจะเละ ไม่อร่อย แนะนำให้เลือกกุ้งที่ตัวใหญ่ๆ และเนื้อแน่น เพื่อรสชาติหวานอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ เมื่อได้กุ้งเนื้อสดมาแล้ว ต่อไปมาดูในส่วนของการเตรียมเนื้อกุ้งก่อนนำไปย่างหรือเผา โดยส่วนนี้สำคัญที่สุดคือต้องใช้มีดปลายแหลมที่คม เพื่อให้ผ่ากุ้งได้ออกมาเนื้อเรียบสวย มาดูวิธีการทำกันค่ะ

วิธีการทำ กุ้งย่าง แสนอร่อย

1. นำกุ้งไปล้างให้สะอาด หลังจากนั้นให้ใช้กรรไกรตัดส่วนของก้าม หนวด และขา ออกให้หมด ตัดปลายหนวดและขาด้านในตัวกุ้งออกให้เรียบร้อย จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง
2. นำมีดที่คมผ่าตัวกุ้งตรงกลาง ในการผ่ากุ้งย้ำว่าจะต้องกะจังหวะให้กึ่งกางพอดีและใช้มีดผ่าลงไปครั้งเดียว ห้ามหั่นหลายๆ ครั้ง เพราะทำให้เนื้อกุ้งเละ ไม่สวย
3. สำหรับใครที่ชอบทานมันกุ้ง อาจจะแยกส่วนของมันออกมาก่อน แล้วค่อยใส่ไปตอนย่างใกล้สุก เพื่อให้มันกุ้งไม่แห้งจนเกินไป
4. ดึงเส้นดำตรงแกนกลางของกุ้งออก แล้วดึงส่วนที่เป็นถุงดำของเสียตรงหัวกุ้งออกให้หมด
5. สำหรับใครที่ชอบความมันๆ นัวๆ แนะนำให้ใช่เนยสดเล็กน้อย ทาลงบนเนื้อกุ้ง จะเพิ่มความหอม หวาน มันได้มากยิ่งขึ้น
6. ตั้งเตาถ่านไฟกลางๆ ใช้ตระแกรงย่างวางบนเตา และเอากุ้งที่ผ่าเรียบร้อยแล้ว เรียงบนตะแกรง พยายามดูให้กุ้งแต่ละตัวโดนไฟเท่าๆ กัน เพื่อให้สุกได้ทั่ว ในระหว่างย่างให้ใช้ฝาหม้อหรือฝาเหล็กมาปิดด้านบนสักเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อกุ้งสุกได้ทั่วถึง
7. เมื่อกุ้งเริ่มสุกสังเกตจากเนื้อที่เริ่มฟูเด้งทะลักออกมาจากเปลือก ให้นำมันกุ้งที่แยกไว้ ใส่ลงไปในส่วนหัวกุ้งที่หลัง แล้วย่างด้วยไฟอ่อนๆ จนเริ่มสุก ด้วยวิธีการนี้จะทำให้มันกุ้งไม่สุกแห้งกระด้างจนเกินไป แต่หากใครชอบความแข็งๆ แบบเคี้ยวหนุบ ก็สามารถย่างจนมันกุ้งสุกดีได้เลย และแล้วเมนู กุ้งย่าง น่าตาน่ารับประทานก็พร้อมจัดเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว แนะนำทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ รับรองว่าอร่อยเหาะแน่นอน

วิธีทำ ลาบไก่ รสแซ่บอร่อยนัวเล่นเผ็ดถึงทรวง

 

ลาบไก่ อีกเมนูแซ่บจัดจ้านที่ขาดไม่ได้ เป็นเมนูสุดโปรดของใครหลายคน ที่ต้องสั่งมาทานกันอยู่บ่อยๆ ด้วยความที่มีรสชาติเผ็ดจัดจ้าน เปรี้ยวตัดเค็ม และแซ่บนัวถึงใจ ทำให้เมนูลาบไก่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารอีสานเป็นอย่างมาก แม้หลายคนอาจจะคิดว่ารสชาติของเมนูดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับลาบหมู แต่หากได้ลิ้มลองรสชาติของลาบไก่แล้ว เชื่อว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เพราะลาบไก่จะให้ความรู้สึกนุ่มละมุนลิ้นมากกว่า แถมยังนำมาทานคู่กับเมนูต่างๆได้อย่างเอร็ดอร่อย สำหรับคนที่อยากทำเมนูลาบไก่ทานเอง วันนี้ลองมาเรียนรู้วิธีการทำไปด้วยกัน

ส่วนผสมที่ต้องใช้ในการทำ เมนูลาบไก่

วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ในการทำเมนูลาบไก่ มีทั้งหมด 10 ชนิด ดังต่อไปนี้

1.เนื้อไก่สับ จำนวน 300 กรัม

2.พริกป่น จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ

3.ข้าวคั่วป่น จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ

4.ต้นหอมซอย จำนวน 2 ต้น

5.หอมแดง จำนวน 5 หัว

6.ผักชีฝรั่ง จำนวน 1 ต้น

7.น้ำปลา จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำมะนาว จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ

9.ใบสะระแหน่ จำนวน ½ ถ้วย

10.น้ำเปล่า จำนวน ¼ ถ้วย

วิธีการทำ ลาบไก่

ท่านสามารถทำเมนู ลาบไก่ ไว้รับประทาน โดยปฏิบัติตาม 6 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1.เริ่มต้นด้วยการต้มน้ำในหม้อจนกว่าจะเดือด จากนั้นให้เทเนื้อไก่สับลงไปในรวน รอจนกว่าเนื้อไก่จะสุก หากน้ำในหม้อแห้งจนเกินไป ควรเทน้ำใส่เพิ่มลงไปในปริมาณที่เหมาะสม และควรใช้ทัพพีขยี้เนื้อไก่สับให้สลายตัวออกจากกัน จะได้ไม่จับตัวเป็นกลุ่มก้อน

2.เมื่อเนื้อไก่สับเริ่มสุกจนได้ที่แล้ว ให้ตักเนื้อไก่สับจากรวนใส่ไว้ในภาชนะแยก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปรุงรสในขั้นตอนถัดๆไป ใส่หอมหัวแดงลงไปในภาชนะแล้วคลุกเคล้าจนเข้ากัน

3.หลังจากคลุกเคล้าหอมหัวแดงเข้ากับเนื้อไก่สับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องต่อด้วยการปรุงรสชาติให้อร่อยโดนใจ ใช้ส่วนผสมต่างๆที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ เช่น ข้าวคั่วป่น พริกป่น มะนาว และน้ำปลา ใช้ทัพพีคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน

4.นำใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง และหอมซอย ใส่ลงไปภายในภาชนะ แล้วใช้ทัพพีคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันเหมือนเดิม จะส่งผลให้เมนูลาบไก่มีกลิ่นหอมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นไปอีก

5.เมื่อใส่ส่วนผสมต่างๆจนครบถ้วนแล้ว ให้ลองชิมรสชาติดูสักหน่อย หากพบว่ารสชาติของเมนูดังกล่าวยังไม่อร่อยถูกใจ หรือคิดว่าควรเพิ่มส่วนผสมอะไรอีกหน่อย ก็สามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ

ราดหน้าเส้นหมี่ ใส่ผักเยอะๆและหมูหมักนุ่มๆค่ะ

 

ราดหน้าเส้นหมี่ ใส่ผักเยอะๆและหมูหมักนุ่มๆค่ะ
***ส่วนผสม
-เส้นหมี่อบแห้ง แช่น้ำเปล่าให้เส้นนุ่ม ตักขึ้นสะเด็ดน้ำพักไว้
-หมูสันใน ล้างและหั่นเป็นชิ้น หมักด้วยซีอิ๊วขาว/แป้งมัน/น้ำตาลทรายนิดหน่อย ขยำหมูเบาๆ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย2ชั่วโมง
-ปลาหมึก/กุ้ง ล้างและหั่นตามชอบ
-คะน้า ล้างและปอกส่วนที่แก่ทิ้งหั่นพักไว้
-แป้งมัน/แป้งท้าวยายม่อม ผสมกันละลายน้ำพักไว้
-น้ำซุปไก่หรือหมูก็ได้
-กระเทียมสับ
-เต้าเจี้ยว/ซีอิ๊วดำ/ซีอิ๊วขาว/ซอสปรุงรส/น้ำตาล/พริกไทยป่น/ผงชูรสถ้าชอบ
***วิธีทำ
1.ตั้งกระทะใส่น้ำมันนำเส้นหมี่ลงผัด ใส่ซีอิ๊วดำผัดให้หอมและเส้นสุกนิ่ม ตักใส่จาน
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันนิดหน่อยนำกระเทียมสับลงผัดให้หอม จากนั้นใส่หมูลงผัดให้เกือบสุก เติมน้ำซุปรอให้น้ำเดือดปรุงรสด้วย เต้าเจี้ยว/ซีอิ๊วขาว/ซอสปรุงรส/น้ำตาล/พริกไทยป่น/ผงชูรสถ้าชอบ พอเดือดอีกครั้งใส่กุ้ง/ปลาหมึก/ผักคะน้า พอเนื้อสัตว์และผักสุก น้ำราดหน้าเดือดเติมแป้งมันกับแป้งท้าวยายม่อมที่ละลายน้ำใส่ลงไป รีบคนให้แป้งละลาย และคนให้เข้ากันดี ปิดไฟ
3.ตักน้ำราดหน้าใส่เส้นหมี่ที่เราผัดไว้ ราดให้ท่วมเส้น โรยด้วยพริกไทยป่น และปรุงรสตามชอบ
พร้อมรับประทานได้เลยค่ะ

CF. Lunar Mini

ยำมาม่าแซบๆจร้า

สูตรยำมาม่าแซบๆจร้า

#ขั้นตอน

1.หั่นผักสดตามชอบพักไว้ เช่น คึ่นช่าย หอมใหญ่ ต้นหอม มะเขือเทศ

2.แกะกุ้งนำไปลวกน๊อคน้ำเย็นเตรียมไว้

3.ลวกเส้นมาม่าเตรียมไว้

4.เนื้อสัตว์อื่นๆปรุงสุกไว้ตามชอบเลย ผมใช้หอยเชลล์นำไปจี่ให้สุกก่อน ไข่ไก่ต้ม หมูบดลวกสุก ไส้กรอกลวกสุก...

5.ปรุงรสน้ำยำแซบๆ ผมใช้พริกขี้หนูสีแดงสับละเอียด/หรือบด ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำปลา ซอสพริกศรีราชา น้ำจิ้มไก่ ถ้าชอบผงชูรสก็ใส่ได้ ผสมให้ได้รสชาติจัดๆออกเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวานปลายๆ

6.นำส่วนผสมทั้งหมด1-5คลุกเบาๆให้เข้ากัน ไม่ต้องปรุงรสเพิ่มแล้วครับ จะได้ยำที่ผักกรอบสดรสจัดจ้านไม่แฉะน้ำ ตกแต่งตามชอบครับ....??????

เครดิต : P'Eak

 

สูตรผัดกระเพราทะเลจร้า

 

~~วัตถุดิบ เครื่องปรุง~~
• ปลาหมึก (นำมาบั้ง)
• กุ้ง (แกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก)
• หอยแมลงภู่ (ที่นึ่งแล้ว)
• พริกขี้หนูแดง
• กระเทียม
• น้ำมันพืช
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• ใบกระเพรา
• พริกชี้ฟ้าแดง
• น้ำเปล่า
~~วิธทำ ~~
1... ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะไม่ต้องรอให้น้ำมันร้อน
ใส่พริกกระเทียมที่โขลกไว้ ลงไป
2... ผัดพริกและกระเทียม จนพอมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่ปลาหมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ ลงไป
3... ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่าเล็กน้อยพอขลุกขลิก
4... ผัดจนส่วนผสมเข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้าแดง
ตามด้วยใบกระเพรา ตอนนี้กลิ่นเริ่มหอมอบอวลทั่วบ้านแล้วค๊า จากนั้น ปิดไฟ ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับ ไข่ดาว ข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเลิศค๊าา
CF. อัมรัตน์ หงส์หยก?

สูตรเมี่ยงคำจร้า

 

~~~~~
เป็นอาหารว่างของไทยอีกชนิดที่นิยมทาน เพราะมีรสชาติอร่อยครบทุกรส หวาน เปรี้ยว มัน เค็ม เผ็ด ลองมาทำรับประทานกันนะคะ (บริหารกรามกันค่ะ)
ส่วนผสมน้ำเมี่ยง
~~~~~~~~~~~
น้ำตาลมะพร้าวหรือนำ้ตาลโตนด 3-4 ทัพพี
น้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ
นำ้ปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิห่อใบตองเผาไฟ/ขิง/ข่า/ตะไคร้/หอมแดง/ ซอยบางแล้วคั่วให้หอม โขลกรวมกับกะปิให้แหลกละเอียด
มะพร้าวขูดคั่ว
ถั่วลิสงโขลกหยาบ
กุ้งแห้งโขลกละเอียด
วิธีทำน้ำเมี่ยง
~~~~~~~~~
ตั้งกระทะให้พอร้อนใส่นำ้ตาลและนำ้สะอาดลงไปเคี่ยวให้ละลาย /ใส่เครื่องที่โขลกรวมกับกะปิลงไปเคี่ยวชิมรส ถ้าไม่เค็มเติมน้ำปลา เคี่ยวต่อไปให้เหนียว ปิดไฟรอให้เย็น ใส่มะพร้าวขูดคั่ว กุ้งแห้งป่น ถั่วลิสงคั่ว คนผสมให้เข้ากัน ได้น้ำเมี่ยงแล้วค่ะ
เครื่องเคียงเมี่ยง
~~~~~~~~~~~
กุ้งแห่งแช่นำ้ให้นิ่ม
ถั่วลิสงคั่ว
มะพร้าวซอยบางแล้วคั่วให้เหลืองเป็นสีทอง
หอมแดงหั่นเต๋า
ขิงแก่หั่นเต๋า
มะนาวหั่นเต๋าติดเปลือก
พริกขี้หนูสวนซอยหรือเป็นเม็ดลูกโดด
ใบชะพลู
เราได้น้ำเมี่ยงและเครื่องเคียงครบแล้วเวลาทานก็ห่อใบชะพลูใส่เครื่องเมี่ยงต่างๆแล้วราดด้วยน้ำเมี่ยง
CF. มาดาม เฮง