ติดต่อลงโฆษณา เตรียมหัวข้อโฆษณา และ เนื้อหา ข้อมูล หรือข้อความโฆษณา รูปภาพสินค้า สำหรับทำแบนเนอร์และ ในหน้ารายละเอียดโฆษณา

ข้อมูลสำหรับผู้ขาย ชื่อ เบอร์โทร อีเมล์ ที่ให้ลูกค้าติดต่อซื้อขายได้ ส่งมาที่ LINE: @kcs7258v (มีแอด@ข้างหน้า)
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สูตรอาหาร แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรวิธีทำ ตำไทยไข่เค็ม อร่อยเพลิน หวานเผ็ดครบรส


เมนูตำไทยไข่เค็ม เหมาะสำหรับใครที่ชอบความนัวๆ ของไข่เค็ม เข้ากันดีกับรสชาติแซ่บๆ ของตำไทย เป็นหนึ่งเมนูที่คนไม่ชอบทานปลาร้ามักจะสั่งกันบ่อย เพราะเป็นเมนูที่มีความมันๆ นัวๆ จากไข่เค็ม แต่ไม่มีกลิ่นของปลาร้า ให้ความอร่อยไปอีกแบบ

นอกจากนี้ตำไทยไข่เค็มจะต้องเลือกไข่เค็มจากแหล่งผลิตที่ สด สะอาด และไข่แดงใหญ่ เนื้อแน่น จะทำให้ไข่แดงมีความมัน อร่อยมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าได้ไข่แดงสีส้มสด แสดงว่าเป็นไข่แดงที่มันอร่อยนัว เหมาะกับเมนูตำไทยไข่เค็มสุดๆ เลยล่ะค่ะ และอีกหนึ่งเคล็ดลับที่พลาดไม่ได้คือถั่วลิสงคั่ว หากเป็นถั่วลิสงคั่วเอง จะช่วยชูรสชาติให้ตำไทยไข่เค็มหอมส่งกลิ่นหอมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น วันนี้ทางเราจะมาแนะนำสูตรตำไทยไข่เค็ม ผสานความกรุบกรอบของเส้นมะละกอ และความนัวๆ มันๆ จากไข่เค็มรับรองติดใจไม่รู้ลืมแน่นอนค่ะ

วัตถุดิบ ตำไทยไข่เค็ม

  • ไข่เค็มอย่างดี 2 ฟอง
  • มะละกอขูดฝอย ½ ถ้วยตวง
  • แครอทขูดฝอย ½ ถ้วยตวง
  • ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 2 ฝัก
  • มะเขือเทศท้อลูกเล็ก 3 ลูก
  • กระเทียมไทย 3 กลีบ
  • พริกขี้หนูสวน 5 เม็ด (เพิ่มลดปริมาณได้ตามชอบ)
  • พริกแดงจินดา 5 เม็ด (เพิ่มลดปริมาณได้ตามชอบ)
  • ถั่วตัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลเคี่ยว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 1 ลูก
  • น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้งอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ ตำไทยไข่เค็ม


  1. โขลกกระเทียม พริกขี้หนูสวน และพริกแดงจินดาพอแหลกให้เข้ากันดี จากนั้นใส่ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ และถั่วตัด 1 ช้อนโต๊ะ ตำให้ละเอียดจนถั่วตัดละลายเข้ากันดี เพื่อให้มีความหวาน กรุบกรอบ มากยิ่งขึ้น
  2. ใส่ถั่วฝักยาวหั่นท่อนลงไปตำให้ถั่วพอแตกฝัก เติมน้ำตาลเคี่ยว น้ำมะขามเปียก น้ำปลาอย่างดี และบีบมะนาวลงไป ตามด้วยกุ้งแห้งอย่างดี จากนั้นใส่มะเขือเทศท้อลูกเล็ก ผ่าซีกตามแนวยาว แล้วตำทุกอย่างให้เข้ากัน ไม่ต้องตำนานมาก เพราะจะทำให้มะเขือเทศเละไม่สวย
  3. ใส่แครอทขูดฝอย และมะละกอขูดฝอยลงไป ตามด้วยไข่เค็มอย่างดีเอาเปลือกออก แล้วผ่าแบ่งซีก ในขั้นตอนนี้ให้ใช้ทัพพีคนเบาๆ เพื่อไม่ให้ไข่เค็มเละจนเกินไป จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับเมนู ตำไทยไข่เค็ม ที่มีรสชาติหวานเผ็ด จากถั่วตัด และพริกขี้หนูสวน ครบรสด้วย ความเค็มหน่อยๆ มันๆ นัวๆ จากไข่เค็มแสนอร่อย เป็นเมนูก้นครัวที่ทำทานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก หากใครอยากลองเมนูอร่อยๆ ไม่ผิดหวัง ก็ไปเตรียมตัวเข้าครัวกันได้เลยค่ะ

thumbnail

วิธีทำกุ้งย่าง สูตรเด็ดอร่อย สายเที่ยวไม่ควรพลาด

 

เมนูสายเที่ยวที่ขึ้นชื่อสุดๆ คือ กุ้งย่าง ได้ลิ้มรสเนื้อกุ้ง หวานเด้ง สุดอร่อย กับบรรยากาศชิวๆ ริมทะเลหรือบรรยากาศกลางแจ้งหน้าบ้าน หรือที่ไหนสักแห่ง ด้วยเมนูพิเศษอย่างกุ้งย่างหรือกุ้งเผา ก็ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่เลวเลยทีเดียว ส่วนใครเน้นปิกนิกตั้งแคมป์ แนะนำเมนูกุ้งย่างการันตีได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน สำหรับการเลือกซื้อกุ้ง นอกจากหาซื้อจากแหล่งค้าขายที่สด สะอาดปลอดภัยแล้ว ในการซื้อแนะนำให้ดูที่กุ้งเปลือกแข็งเงาใสและลื่น ส่วนตัวกับส่วนหัวไม่ขาดออกจากกัน เนื้อจะต้องแน่นไม่ย้วย ไม่มีกลิ่นคาวมากจับแล้วไม่นิ่มเกินไปเพราะถ้าจับแล้วเนื้อนิ่มอาจจะเป็นไปได้ว่ากุ้งค้างคืนไม่สด เนื้อจะเละ ไม่อร่อย แนะนำให้เลือกกุ้งที่ตัวใหญ่ๆ และเนื้อแน่น เพื่อรสชาติหวานอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ เมื่อได้กุ้งเนื้อสดมาแล้ว ต่อไปมาดูในส่วนของการเตรียมเนื้อกุ้งก่อนนำไปย่างหรือเผา โดยส่วนนี้สำคัญที่สุดคือต้องใช้มีดปลายแหลมที่คม เพื่อให้ผ่ากุ้งได้ออกมาเนื้อเรียบสวย มาดูวิธีการทำกันค่ะ

วิธีการทำ กุ้งย่าง แสนอร่อย

  1. นำกุ้งไปล้างให้สะอาด หลังจากนั้นให้ใช้กรรไกรตัดส่วนของก้าม หนวด และขา ออกให้หมด ตัดปลายหนวดและขาด้านในตัวกุ้งออกให้เรียบร้อย จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง
  2. นำมีดที่คมผ่าตัวกุ้งตรงกลาง ในการผ่ากุ้งย้ำว่าจะต้องกะจังหวะให้กึ่งกางพอดีและใช้มีดผ่าลงไปครั้งเดียว ห้ามหั่นหลายๆ ครั้ง เพราะทำให้เนื้อกุ้งเละ ไม่สวย
  3. สำหรับใครที่ชอบทานมันกุ้ง อาจจะแยกส่วนของมันออกมาก่อน แล้วค่อยใส่ไปตอนย่างใกล้สุก เพื่อให้มันกุ้งไม่แห้งจนเกินไป
  4. ดึงเส้นดำตรงแกนกลางของกุ้งออก แล้วดึงส่วนที่เป็นถุงดำของเสียตรงหัวกุ้งออกให้หมด
  5. สำหรับใครที่ชอบความมันๆ นัวๆ แนะนำให้ใช่เนยสดเล็กน้อย ทาลงบนเนื้อกุ้ง จะเพิ่มความหอม หวาน มันได้มากยิ่งขึ้น
  6. ตั้งเตาถ่านไฟกลางๆ ใช้ตระแกรงย่างวางบนเตา และเอากุ้งที่ผ่าเรียบร้อยแล้ว เรียงบนตะแกรง พยายามดูให้กุ้งแต่ละตัวโดนไฟเท่าๆ กัน เพื่อให้สุกได้ทั่ว ในระหว่างย่างให้ใช้ฝาหม้อหรือฝาเหล็กมาปิดด้านบนสักเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อกุ้งสุกได้ทั่วถึง
  7. เมื่อกุ้งเริ่มสุกสังเกตจากเนื้อที่เริ่มฟูเด้งทะลักออกมาจากเปลือก ให้นำมันกุ้งที่แยกไว้ ใส่ลงไปในส่วนหัวกุ้งที่หลัง แล้วย่างด้วยไฟอ่อนๆ จนเริ่มสุก ด้วยวิธีการนี้จะทำให้มันกุ้งไม่สุกแห้งกระด้างจนเกินไป แต่หากใครชอบความแข็งๆ แบบเคี้ยวหนุบ ก็สามารถย่างจนมันกุ้งสุกดีได้เลย และแล้วเมนู กุ้งย่าง น่าตาน่ารับประทานก็พร้อมจัดเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว แนะนำทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ รับรองว่าอร่อยเหาะแน่นอน

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

thumbnail

ซุปเนื้อน่องลายจร้า


 ซุปเนื้อน่องลายจร้า
~~~~~~~~~~~~~
ถ้วยนี้ผมปรุงแบบแซบๆเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านหน่อย ช่วยทำให้ทานง่ายดี^^
————
วัตถุดิบ*****
เนื้อวัวส่วนน่อง มันฝรั่ง มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย ต้นหอม มะนาว พริกขี้หนูสวน กระเทียมกลีบใหญ่ หอมแดง พริกแห้งทอด น้ำปลา น้ำตาลทราย เกลือ ซีอิ๊วขาว ผงชูรส อบเชย ผักชี ผักชีฝรั่ง หอมใหญ่ หอมแดงทอดกรอบ
วิธีปรุง*****
1.ล้างเนื้อให้สะอาด หั่นชิ้นหนา นำไปลวกในน้ำเดือดจัดเพื่อล้างเลือดและคาวออก สุกประมาณ70% ตักขึ้นมาล้างน้ำเย็นอีกที
2.ตั้งหม้อ เติมน้ำเปล่ารอจนเดือด ใส่เนื้อทั้งหมดลงไป ตามด้วยเครื่องปรุงรสชาติไม่ต้องจัดมาก ด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ ใส่อบเชย ผักชีทั้งต้น ขี้นฉ่ายทั้งต้น กระเทียมทุบ4-5กลีบ ต้มเดือดไฟอ่อนประมาณ40นาที ตักผักชี กระเทียม คึ่นฉ่ายทิ้ง จากนั้นต้มต่อไฟอ่อนอีกประมาณ2ชม.หรือจนกว่าเนื่อนุ่มตามที่ชอบ
3.เมื่อเนื้อนุ่มได้ที่ ใส่มันฝรั่งกับหอมใหญ่ ต้มต่อ15-20นาทีจึงใส่มะเขือเทศ หอมแดงทุบ แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว ชูรสได้ถ้าชอบพริกขี้หนูสวนทุบ น้ำตาลนิดหน่อย เน้นรสชาติจัดจ้าน ใส่ผักที่เหลือลงไปเช่น ขึ้นฉ่าย ผักชีฝรั่ง ต้นหอม โรยหน้าด้วยหอมแดงกับพริกทอดกรอบ พร้อมทานล่ะครับ....??
****ไม่ทานเนื้อวัว ก็เปลี่ยนเป็นไก่ หรือ หมูแทน เพียงแค่ลดเวลาในการเคี่ยว^^
~~~~~~~~
สูตรและภาพAsakimomo P’Eak

thumbnail

ลาบหมู แซ่บนัวๆ


 ลาบหมู แซ่บนัวๆค่ะ
________________________________________
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
~~~~~~~~~~~~~~~
หมูสับ 3 ขีด รวนพอสุก
หนังหมูต้มนำ้จนสุก หั่นเป็นชิ้นๆ
ตับหมูลวกนำ้เดือด 10 วินาที
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 2 ลูก
นำ้ปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
นำ้ตาลทราย 1 ช้อนชา
ชูรส ปลายช้อนชา
หอมแดงซอย 5 หัว
ผักชีฝรั่งซอย
ต้นหอม ผักชีไทยซอย
ใบสระแหน่เด็ดเป็นใบๆ
ข้าวเหนียวคั่วแล้วตำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
~~~~
-เตรียมชามผสม บีบมะนาวลงไปตามด้วย นำ้ปลาดี นำ้ตาลทราย ชูรส (ไม่ใส่ก็ได้) พริกป่น คนให้นำ้ตาลละลายเข้ากัน
-ใส่เนื้อหมู หนังหมู ตับ ที่ลวกไว้ ลงคลุกตามด้วย ข้าวคั่ว หอมแดง ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักชีไทย คลุกอีกที โรยด้วยใบสระแหน่ ตักใสจาน จะมีผักไว้ทานเคียงก็ได้ค่ะเช่น กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว แค่นี้ก็อร่อยพร้อมทานค่ะ
CF. มาดาม เฮง

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2565

thumbnail

ส่วนผสมสำหรับทำกุ้งกระจก อาหารจีน เมนูกุ้งแสนอร่อย สำหรับวันนี้

 กุ้งกระจก อาหารผัดประเภทกุ้ง วิธีทำกุ้งกระจก ไม่ยากเลย สามารถทำกินเองได้ เคล็ดลับการทำกุ้งทำอย่างไร มีกุ้งทำอะไรกินได้บ้าง กุ้งทำอะไรกินดี


สูตรอาหารแสนอร่อย เมนูอาหารสำหรับวันนี้ นำเสนออาหารจีน แบบง่ายๆ กับข้าวจากกุ้ง คือ กุ้งกระจก เคล็ดลับความอร่อยของกุ้งกระจก อยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรกุ้งกระจก เมนูกุ้ง อร่อยๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำกุ้งกระจก

  • กุ้ง 8-10 ตัว
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  • กะปิฮ่องกง 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต้ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ขิง ซอนยาวๆ 1 หยิบมือ
  • ไข่ขาว 1 ฟอง
  • พริกสด ซอยยาวๆ   1 หยิบมือ
  • แป้งมัน 2 ช้อนโต้ะ
  • ผักชี ซอยฝอย  1 หยิบมือ
  • ผักกะหล่ำปลี ซอยฝอย  1 หยิบมือ
  • ซุปไก่

วิธีทำกุ้งกระจก

  1. เริ่มจากการแกะเนื้อกุ้ง ผ่าหลัง ล้างให้สะอาด โดยใช้ แป้งมันและเกลือ ล้างจากนั้นหมักเนื้อกุ้งก่อน
  2. หมักกุ้งโดยใช้ เบกกิ้งโซดา น้ำตาล เกลือ ไข่ขาว และ แป้งมัน พักเอาไว้ก่อนในตู้เย็น
  3. ปรุงรสน้ำจิ้มซอสโดยใช้ กะปิ น้ำเปล่า น้ำตาลทราย น้ำมันงา ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
  4. เริ่มผัดกุ้ง นำกุ้งลงไปสะดุ้งน้ำร้อน จากนั้นนำมาแช่เย็น ให้เนื้อกุ้งกรอบ
  5. ใส่น้ำมันลงกระทะให้น้ำมันร้อน จากนั้นนำกุ้งลงไปสะดุ้งน้ำมันอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำซุปไก่ น้ำตาลและน้ำมันงา ผัดแบบสะดุ้งๆ
  6. จัดจานด้วย ผักกะหล่ำปลี ขิง ผักชี และ พริกสดให้สวยงาม วางเนื้อกุ้งลงไป เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานได้แล้ว

เคล็ดลับการทำกุ้งกระจก

  • กุ้งให้ล้างให้สะอาด และ ผ่าเส้นที่หลังออก โดยเทคนิคการล้างกุ้ง โดยใช้ เกลือ และ แป้งมัน คลุกเคล้า ให้เมือกออจากตัวกุ้ง
  • การหมักเนื้อกุ้งให้เด้งกรอบ ใช้ เบ้กกิ้งโซดา น้ำตาล ไข่ขาว และ แป้งมัน หมักโดยใส่น้ำแข็งลงด้วยให้รักษาความกรอบของเนื้อกุ้ง
  • การผัดกุ้งให้กรอบ ใช้วิธีการผัดแบบสะดุ้งไฟ และ นำมาแช่น้ำแข็งอีกครั้ง จะได้เนื้อกุ้งที่สุกและกรอบอร่อย
  • น้ำซอสกะปิ ใช้กะปิฮ่องกง แต่หากไม่สามารถหากะปิฮ่องกงได้ ก็ใช้กะปิไทย นำมาผสมน้ำต้ม และกรองเอาน้ำกะปิค้นๆ เอากากออก แทนได้

กุ้งกระจก อาหารประเภทกุ้งมีความละเอียดอ่อนในตัววัตถุดิบ เนื้อกุ้งหาบทำให้สุกเกินไปเนื้อกุ้งจะแข็งกระด้างไม่น่ารับประทาน แต่กุ้งกระจกขอบอกเลยว่าถูกใจแน่นอน รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรแกงคั่วมะระปลาดุก อาหารไทยแสนอร่อยๆ เมนูแกงมะระ

แกงคั่วปลาดุก อาหารไทย แบบง่ายๆ เมนูปลา วิธีทำแกงคั่วปลาดุก ไม่ยากสามารถทำกินเองได้ แกงปลาดุก แกงมะระ ทำอย่างไรให้มะระไม่ขม ปลาดุกอร่อย มะระทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารพื้นบ้าน นำ มะระ ปลาดุก พริกแกงเผ็ด เป็นส่วนผสมหลัก คือ แกงคั่วมะระปลาดุก เคล็ดลับความอร่อยของแกงคั่วมะระปลาดุก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรแกงคั่วมะระปลาดุก อาหารอร่อยๆ เมนูปลาดุก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำแกงคั่วมะระปลาดุก

  • ปลาดุก 1 ตัว นำมาหั่นเป็นท่อนพอดีคำ
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ 6 เม็ด
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • กระเทียม 1 หยิบมือ
  • ข่าซอย 1 หยิบมือ
  • ตะไคร้ซอย 1 หยิบมือ
  • ผิวมะกรูด 1 หยิบมือ
  • รากผักชี 2 ราก นำมาซอย
  • หอมแดง 1 หยิบมือ
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • มะระ หั่นพอคำ 1 ถ้วย
  • ใบมะกรูด 4-5 ใบ  นำมาซอย
  • พริกขี้หนูสวน 5-6 เม็ด
  • กะทิ 2 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงคั่วมะระปลาดุก

  1. เริ่มจากการเตรียมมะระก่อน นำมะระล้างให้สะอาด แช่น้ำเกลือ จากนั้นนำ มะระไปลวกในน้ำร้อน และ นำไปแช่น้ำเย็น พักเอาไว้ก่อน
  2. เตรียมพริกแกง โขรก พริกแห้ง เกลือ กระเทียม ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี กะปิ และหอมแดงให้ละเอียด เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ตั้งกระทะน้ำมัน ไม่ต้องเปิดไฟ ใส่พริกแกงลงไปในกระทะ จากนั้นค่อยเปิดไฟให้ความร้อนค่อยๆให้พริกแกงสุกจนส่งกลิ่นหอม
  4. จากนั้นใส่กะทิ ลงไปเคี่ยวกับพริกแกง เคี้ยวจนกะทิแตกมัน
  5. ให้เติมน้ำ
  6. ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนูสวน และ ใบมะกรูด
  7. ใส่ ปลาดุก และ มะระ ลงไปต้ม เคี่ยวต่อจนสุกเนื้อปลาสุกปิดไฟและเสริฟใส่ชามพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำแกงคั่วมะระปลาดุก

  • การทำให้มะระไม่ขม ต้องคว้านเอาไส้ขาวๆและเมล็ดออกให้หมด จากนั้นนำๆปต้มด้วยน้ำเกลือ 15 นาที และนำมาแช่เย็นให้มะระยังคงความสด
  • การเลือกมะระ ให้เลือกมะระจีนตาใหญ่ๆ หยักน้อยๆ จะได้มะระที่ไม่ขม
  • มะระ ให้นำไปลวกก่อน การลวกมะระ จะช่วยให้ลดความขมของมะระลงได้ แต่น้ำที่ใช้ในการลวกมะระ ไม่ควรนำมาทำอาหาร เนื่องจากน้ำจะขม
  • เคล็ดลับการทำพริกแกง ส่วนผสม อย่าง ข่า ตะไคร้ กระเทียม และ หอมแดง ให้นำไปคั่วกระทะ ให้หอมก่อน จึงนำไปโขรก จะทำให้พริกแกงมีความหอมแบบธรรมชาติ
  • เทคนิคการผัดพริกแกงให้ใช้ไฟอ่อนๆ ให้ความร้อนอ่อนๆทำให้พริกแกงสุกหอม จะได้ความหอมและรสชาติของพริกแกงอย่างเต็มที่ หากใช้ไฟแรงเกินไปพริกแกงจะไหม้ เสียรสชาติ
  • น้ำกะทิ สำหรับนำมาทำอาหาร เมนูแกงกะทิ ให้เลือกใช้ กะทิคั้นสด ความสดของกะทิ ช่วยให้ อาหารเมนูแกงกะทิ มีความหอมแบบธรรมชาติ
  • ใบมะกรูด ส่วนแกนของใบ เป็นส่วนที่ความขม การเตรียมใบมะกรูด ให้เอาแกนใบออก
  • น้ำตาล สำหรับปรุงรส แกงคั่วนั้น ให้ใช้น้ำตาลปีี๊บ เนื่องจากความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับนำมาทำแกงคั่ว
  • ปลาดุก ให้เลือกใช้ ปลาดุกสดๆ ใช้ปลาดุกรัสเซีย เนื่องจากปลาดุกรัสเซีย เนื้อเยอะ ได้เนื้อปลามากๆ
  • การล้างปลา เป็น เคล็ดลับความอร่อยของเมนูปลา ต้องล้างให้เมือกที่ตัวปลาออกให้หมด การล้าปลาใช้ แป้งมันถูกปลา ให้แป้งมันจับกับเมือกปลา และ ใช้เกลือ ล้างปลาอีกครั้ง เมือกปลาจะออกหมด
thumbnail

สูตรกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา สูตรอาหารง่ายๆ แสนอร่อย เมนูผัด

 กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา อาหารอร่อยๆ ชื่อทอดแต่เป็นอาหารผัด วิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ไม่ยากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ อาหารไทยยอดนิยม เมนูกะหล่ำปลี เมนูผัด


สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารอร่อยๆ เมนูอาหารที่นิยมสั่งตามร้านอาหาร คือ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา รสชาติและความอร่อยเป็นเสนห์ของเมนูนี้อย่างแท้จริง เคล็ดลับความอร่อยของกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เมนูอาหารอร่อยๆ กับข้าวจากกะหล่ำปลี ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด

ส่วนผสมสำหรับทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

  • กะหล่ำปลี 2 ถ้วย นำมาหั่นขนาดพอดีคำ
  • กระเทียม 2 กลีบ นำมาบดให้ละเอียด
  • น้ำตาลทราบ 2 ช้อนโต้ะ
  • เกลือป่น นิดหน่อย
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 หยิบมือ
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต้ะ
  • กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา
  • น้ำปล่า 4 ช้อนโต้ะ

วิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

  1. เริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอมและเหลือง
  2. จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปคั่วในกระทะ รอให้น้ำตาลเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล
  3. เติมน้ำลงไปและปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่เกลืิอลงไปนิดหน่อย เคี้ยวจนน้ำเริ่มเหนียวเล็กน้อย อย่าให้เหนียวมาก
  4. ใส่ กะหล่ำปลี และ เม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ ลงไปผัด ให้ผัดให้กะหล่ำปลีร้อนอ่อนแต่ไม่เละ
  5. เสริฟใส่จานโรยกระเทียมเจียว พร้อมรับประทาน

เคล็ดลับการทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

  • เคล็ดลับความอร่อยของ เมนูนี้ คือ น้ำปลาหวานที่หอมกลิ่นกระเทียม ไม่ต้องใส่น้ำมันเยอะ ผัดกระเทียมให้หอม จากนั้น นำน้ำตาลลงไปคั่วให้หวาน ออกสีน้ำตาล และ ปรุงรสด้วยน้ำปลา จากนั้นจึงนำกะหล่ำปลีลงไปผัด
  • ผักกะหล่ำปลี ให้เลือกสดๆ โดยสังเกตุคั่วของกะหล่ำปลีต้องไม่แห้ง ก้านใบไม่ใหญ่เกินไป หั่นให้พอดี ไม่ควรหั่นให้เล็กเกินไป หรือ ใหญ่เกินไป
  • เทคนิคการผัดกะหล่ำปลี ให้ผัดให้กะหล่ำปลีอ่อน แต่ไม่ให้เละ เวลารับประทานยังมาความกรอบ และ ร้อนของกะหล่ำปลี
  • กระเทียม สำหรับเหมาะนำมาผัดให้ใช้ กระเทียมจีน ไม่ต้องการให้กลิ่นกระเทียมนำความหวานของกะหล่ำปลีและน้ำตาล
  • น้ำเปล่าสำหรับเติมในน้ำปลา สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำซุปหมูได้ เนื่องจากน้ำซุปหมูจะเพิ่มความหวานอร่อยแต่หากไม่มีใช้น้ำเปล่าได้
  • ไฟที่ใช้ในการผัด ช่วงของการเคี้ยวน้ำตาลให้ใช้ไฟอ่อน แต่เวลาผัดกะหล่ำปลีให้ใช้ไฟร้อน
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้นำมาคั่วเอง ซึ่งเม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วใหม่ๆจะมีกลิ่นหอม กรอบ อร่อยๆ และที่สำคัญปลอดภัยมากกว่าการซื้อแบบสำเร็จรูป
  • น้ำมันสำหรับนำมาผัดให้เลือกใช้น้ำมันพืชใหม่ ห้ามนำน้ำมันเก่ามาใช้ เนื่องจากน้ำมันเก่าจะทำให้อาหารมีกลิ่นของอาหารอื่นๆ ทำให้ เสียรสชาติของอาหาร
  • การเคี้ยวน้ำตาลให้เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล จะได้น้ำตาลที่มีความหวานและหอม แต่ขั้นตอนการเคี้ยวน้ำตาลให้ระวังอย่าให้ไหม้ เนื่องจากน้ำตาลไหม้จะขม รับประทานไม่ได้
  • น้ำตาลคั่วใส่เกลือลงไปนิดหน่อย จะเพิ่มความกลมกล่อม

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรบัวลอยน้ำขิง ขนมหวานอร่อยๆ หอมหวาน เพื่อสุขภาพ

 บัวลอยน้ำขิง ขนมหวาน เมนูสุขภาพ สำหรับฤดูหนาว ทำให้ร่างกายอบอุ่น วิธีทำบัวลอยน้ำขิง ง่ายๆทำกินเองได้ แป้งบัวลอยทำอย่างไร บัวลอยไส้ถั่วงาดำ ขนมหวานที่ดีต่อสุขภาพ


สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ ขอแนะนำ ขนมหวาน สำหรับฤดูหวาน ช่วงที่อากาศเย็น ขนมหวานสามารถช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้ คือ บัวลอยน้ำขิง น้ำขิงร้อนๆบัวลอยหวานๆอร่อยๆ เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหารและการปรุงรสชาติ

สูตรบัวลอยน้ำขิง ขนมหวาน เมนูสุขภาพ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำขนมหวาน เมนูขิง


ส่วนผสมสำหรับทำบัวลอยน้ำขิง

  • แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
  • แป้งข้าวจ้าว 100 กรัม
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  • ถั่วเขียว 100 กรัม
  • งาดำ 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย 200 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
  • น้ำตาลปิ๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ขิงแก่ 2 แง่งใหญ่ นำมาซอยเป็นแผ่น
  • น้ำสะอาด สำหรับต้มน้ำขิง

ขั้นตอนการทำบัวลอยน้ำขิง

  1. เตรียมน้ำขิง โดยตั้งหม้อต้มน้ำให้ร้อนใส่ขิงลงไปต้ม ต้มจนได้กลิ่นหอมของขิง จากนั้นเติมน้ำตาลทรายและน้ำตาลทรายแดงลงไป เคี้ยวไปเรื่อยๆด้วยไฟอ่อนๆ
  2. เริ่มจากการนำถั่วเขียวมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปนึ่งให้ถั่วเขียวสุก และ นำไปบดให้ละเอียด
  3. เตรียมงาดำ โดยนำไปคั่วในกระทะให้หอม จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด
  4. ตั้งกระทำให้ร้อน ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคั่วให้ละลาย ใส่เกลือป่นลงไป
  5. นำถั่วเขียวบด และ งาดำคั่วบดลงไปผัดในกระทะน้ำตาล ผัดให้ถั่วและงาดำเข้ากับเนื้อน้ำตาล จะได้ไส้ที่มีความหวานหอม และ เหนียวประมาณหนึ่ง จากนั้นพักให้เย็นก่อน
  6. เตรียมแป้ง โดย นำแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวเจ้ามาร่อนก่อน
  7. นำแป้งมาผสมกันและเติมน้ำลงไป นวดให้แป้งเนื้อเนียน
  8. นำแป้งมาปั้นเป็นก้อน และ รีดเป็นแผ่นความหนาประมาณ 2 มิลลิเมตร
  9. นำไส้ลงไปบนแป้งและห่อเป็นก้อนกลมๆ น้ำมาพักเอาไว้ก่อน
  10. ปั้นแป้งบัวลอย โดย ใส่ไส้งาดำ เป็นลูกๆขนาดเท่าลูกปิงปอง เตรียมหม้อต้มน้ำความร้อนปานกลาง นำ บัวลอย ลงไปต้ม ถ้า บัวลอย ลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้ว ให้นำ บัวลอย ที่สุกมาพักในน้ำเย็นก่อน รอน้ำขิง
  11. เตรียมต้มบัวลอย ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด จากนั้นนำบัวลอยลงไปต้มให้แป้งสุก โดยสังเกตุจากเม็ดบัวลอยเริ่มลอยขึ้นมา
  12. จากนั้นนำบัวลอยที่สุกแล้วไปแช่น้ำเย็น ให้บัวลอยเซ็ตตัว
  13. เสริฟบัวลอยใส่ถ้วยและเติมน้ำขิงลงไป เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำขนมบัวลอยน้ำขิง

  • การเตรียมแป้งสำหรับปั้นบัวลอย มีความสำคัญ ต้องได้ส่วนผสมที่พอดี โดย ใช้ แป้ง 2 ชนิด ที่มีคุณสมบัติต่างกัน แต่เมื่อน้ำมาผสมกัน จะทำให้ได้รสชาติ ความเหนียวนุ่มของแป้งที่พอดี สำหรับแป้งบัวลอย เราเลือกใช้ แป้งข้าวเหนียว และ แป้งข้าวจ้าว การนวดแป้ง เพื่อให้แป้งทั้ง 2 ชนิด ผสมและเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  • การปั้นบัวลอย ให้รีดเป้นแผ่น ความหนาให้พอดี ไม่หนา หรือ บางเกินไป บัวลอยปั้นให้กลมๆ หรือ จะทำเป็นรูปทรงอะไรก็ได้ตามใจชอบ
  • การต้มบัวลอย ให้ต้มด้วยน้ำเดือดๆ และน้ำต้มให้ใช้น้ำเชื่อม ความหวานของน้ำเชื่อมจะทำให้แป้งบัวลอย มีความหวานน่ารับประทาน
  • ไส้ให้ใช้ งาดำคั่ว และ โขรกละเอียด นำมาผัดกับน้ำตาล น้ำตาลที่ต้องนำมาผัด คือ น้ำตาลปี๊บ เรื่องจากมีความหวาน และ มีความเหนียว นำมาปั่นไส้ง่าย ไส้เมื่อผัดเสร็จ ให้ทิ้งไว้ให้เย็นก่อน จึงนำมาปั้นได้
  • สำหรับไส้งาดำ หากหางาดำไม่มี สามารถใช้ ถั่วเขียวแทนได้ โดยหากนำถั่วเขียวมาทำ ต้องนำถั่วเขียวมาล้าง ให้สะอาด จนน้ำล้างถั่วเขียวใส ขั้นตอนนี้สำคัญ หากน้ำล้างไม่ใส ถั่วเขียวจะมีกลิ่น จากนั้นนำไปแช่น้ำ 3 ชั่วโมง จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก และนำไปโขรก และ ผัดกับน้ำตาล หากนำมาทำไส้ถั่วเขียว ให้ใส่พริกไทยลงไปด้วย จะเพิ่มรสชาติของไส้ได้อย่างดี
  • ขิง สำหรับนำมาทำน้ำของ ให้เลือกใช้ขิงแก่ เนื่องจากขิงแก่ ให้รสเผ็ด และความหอมกลิ่นขิงได้ดี
thumbnail

สูตรยำหอยนางรม อาหารง่ายๆ รสจัดจ้าน ในวันสบายๆ

 ยำหอยนางรม สูตรอาหารอร่อยๆ เมนูบำรุงกำลัง วิธีทํายําหอยนางรม ไม่ยากทำกินเองได้ หอยนางรมหวานๆทานกับน้ำยำหอมน้ำพริกเผา พร้อมด้วยเครื่องเคียงต่างๆ เมนูอาหารอร่อย


สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูยำอร่อยๆ น้ำยำสูตรพิเศษด้วยน้ำพริกเผา และ วัตถุดิบหลักที่อร่อยๆ คือ ยําหอยนางรม เคล็ดลับการทำยำหอยนางรม คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สำหรับเมนูหอยนางรม เป็นอาหารบำรุงกำลัง สำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ช่วยเพิ่มกำลังวังชา อาหารเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และ ทำให้อสุจิแข็งแรง

สูตรยำหอยนางรม อาหารยำ เมนูหอยนางรม แบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูยำ

ส่วนผสมสำหรับทำยำหอยนางรม

  • หอยนางรม 1 จาน (ปริมาณตามต้องการ)
  • น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาลปีี๊บ 1 ช้อนชา
  • ตะไคร้ 1 ต้น นำมาซอยเล็กๆ
  • หอมแดง 2 หัว นำมาซอยเล็กๆ
  • พริกขี้หนูสวน 3 เม็ด นำมาซอย
  • ข่านำมาซอยเป็นเส้นเล็กๆ 1 ช้อนโต้ะ
  • ขิงนำมาซอยเป็นเส้นเล็กๆ 1 ช้อนโต้ะ
  • กระเทียม 1 กลีบ บดให้ละเอียด
  • กระเทียม 2 กลีบ นำมาฝานเป็นแผ่นๆ
  • พริกแห้งทอด สำหรับโรยหน้า ประมาณ 3-4 เม็ด
  • ผักสำหรับโรยหน้า เช่น ใบสาระแหน่ ใบอ่อนชะอม เป็นต้น

วิธีทำยำหอยนางรม

  1. เริ่มจากการเตรียมน้ำยำ ให้นำส่วนผสมต่างๆ ประกอบด้วย น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนูสวน กระเทียมบด และ น้ำตาลปี๊บ คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำมาพักไว้ก่อน
  2. ล้างหอยนางรมให้สะอาด จากนั้นนำหอยนางรม ตะไคร้ หอมแดง กระเทียมฝาน ขิง และข่า นำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำที่เตรียมไว้แล้ว
  3. เสริฟใส่จาน โรยหน้าด้วย พริกแห้งทอด ยอดอ่อนชะอม และ ใบสาระแหน่ เพียวเท่านี้ก็พร้อมที่จะรับประทาน

เคล็ดลับการทำยำหอยนางรม

  • การเลือกซื้อหอยนางรม ต้องเลือกซื้อหอยที่สดใหม่ และสะอาด โดยวิธีเลือกซื้อหอยนางรม ให้ดูที่น้ำแช่หอยนางรม น้ำต้องใส ถ้าเป็นหอยนางรมใหม่ๆสดๆ น้ำที่แช่หอยนางรมจะใส ถ้าเป็นหอยนางรมเก่าน้ำจะไม่ใส ถึงเปลี่ยนน้ำใหม่น้ำก็จะไม่ใส และดูสีของหอยนางรม ต้องสีขาว ดูอิ่ม
  • การเตรียมหอยนางรมให้ล้างให้สะอาด ล้างเบาๆด้วยน้ำสะอาด ล้างจนกว่าน้ำแช่หอยรางรมจะใส
  • สำหรับขิง ข่า และตะไคร้ ให้ซอยเล็กๆให้เคี้ยวง่าย เพราะเนื้อขิง ข่า และ ตะไคร้ หยาบหากหั่นหนาจะเคี้ยวยาก
  • น้ำตาลสำหรับนำมาทำยำเลือกใช้น้ำตาลปี๊บ เนื่องจากความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับอาหารยำ
  • ยอดชะอม ให้นำไปลวกก่อน ให้ชะอมคลายกลิ่นฉุน

หอยนางรม เป็นอาหารทะเลที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เป็นอาหารที่จัดได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะเป็นแหล่งของวิตามินนานาชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี และวิตามินดี วิธีทำยำหอยนางรม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

thumbnail

สูตรแกงป่าปลาช่อน อาหารไทย รสเข้มข้น อร่อย เต็มไปด้วยสมุนไพร

 แกงป่าปลาช่อน อาหารแบบง่ายๆ เต็มไปด้วยสมุนไพร วิธีทำแกงป่าปลาช่อน ไม่ยากทำกินเองได้ อาหารพื้นบ้าน อาหารไทย เมนูแกง ปลาช่อนทำอะไรกินได้บ้าง อาหารป่า ดีต่อสุขภาพ


สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนออาหารรสเข้มข้น รสจัดจ้าน มีส่วนผสมของสมุนไพร หลากหลาย พริก กระเทียม พริกไทย กระชาย คือ แกงป่าปลาช่อน เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ หารปรุงรสาติ แกงป่าที่อร่อยต้องมีพริกแกงที่ถึงเครื่อง

แกงป่าปลาช่อน แกงอร่อยๆ เมนูปลาช่อน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกงพื้นบ้าน

ส่วนผสมสำหรับทำแกงป่าปลาช่อน

  • ปลาช่อน 1 ตัว (หั่นเป็นท่อนพอดีคำ)
  • พริกแกงป่า 2 ช้อนโต้ะ ( พริกขี้หนูแห้ง 25 กรัม หอมหัวแดง 25 กรัม กระเทียม 25 กรัม ข่า ½ ช้อนชา ตะไคร้ 15 กรัม ผิวมะกรูด ½ ช้อนชา รากผักชี ½ ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนชา กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ เกลือ
    ½ ช้อนชา ลูกผักชีคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา ข้าวสารแช่น้ำโขลก 2 ช้อนโต๊ะ )
  • มะเขือเจ้าพระยา 2 ลูก (หั่นสี่ซี่)
  • พริกขี้หนูสวน 5 เม็ด
  • กระชาย 1 แง่ง นำมาซอยเล็กๆ
  • ใบกระเพรา 1 กำมือ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ

วิธีทำแกงป่าปลาช่อน

  1. เริ่มจากการเตรียมพริกแกงป่า โดยการโขรกส่วนผสมของพริกแกงทั้งหมดให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ( พริกขี้หนูแห้ง หัวแกงกระเทียม ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี พริกไทย กะปิ เกลือ ลูกผักชี ยี่หร่า ข้าวสารแช่น้ำ )
  2. จากนั้นตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่ พริกแกงป่าลงไป ตามด้วยกระชาย
  3. ปรุงรสด้วย น้ำปลา
  4. เร่งไฟให้เดือด ใส่ ปลาช่อน มะเขือเจ้าพระยา พริกขี้หนูสวน และ ใบกระพรา ลงไป
  5. ต้มทิ้งไว้จนปลาสุก ก็ปิดไฟทิ้งให้คลายร้อนสักหน่อย เสริฟรับประทานได้ 

เคล็ดลับการทำแกงป่าปลาช่อน

  1. การเลือกปลาช่อน ต้องเลือกปลาช่อนตัวใหญ่ ขนาด 7 ขีด จึงจะได้เนื้อปลาที่มากพอ
  2. เทคนิคการเลือกซ์้อปลาช่อน ต้องเลือกปลาสดๆ โดยการสังเกตุจาก ลักษณะความสมบูรณ์ของตัวปลา ตาปลาใสๆ เนื้อปลายังแน่น และ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
  3. การเตรียมปลา เริ่มจากการล้างปลาให้สะอาด ไม่มีเมือกเหลืออยู่ เคล็ดลับความสำคัญของการทำอาหารเมนูปลา คือ การล้างปลาให้สะอาด เนื่องจากหากล้างปลาช่อนไม่สะอาด จะทำให้ปลาช่อนมีกลิ่นคาว โดยให้ใช้ แป้งมัน ถูตัวปลา แป้งมันจะช่วยให้เมือกที่ตัวปลาออก จากนั้น นำล้างด้วยเกลือจะทำให้ได้ ปลาที่พร้อมสำหรับทำอาหาร
  4. เทคนิคการต้มปลา นั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เนื่องจาก เนื้อปลาที่สุก จะเละง่าย การต้มปลา ให้ใส่เป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยการต้มปลา ให้ตั้งไปให้เดือด และ ไม่ต้องคลนน้ำแกง ใส่เนื้อปลาลงไป และ ต้มจนสุก จพทำให้เนื้อปลาสวย น่ารับประทาน
  5. การทำพริกแกงป่า ให้นำ หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ลูกผักชี และ ใบยี่หร่า ไปคั่ว ให้มีกลิ่นหอม พริกแกงจึงจะมีรสชาติที่ดี

วิธีทำแกงป่าปลาช่อน ง่ายๆทำกินเองได้ แกงป่าปลาช่อน อาหารไทย เมนูปลาช่อน  อาหารพื้นบ้าน ปลาช่อนทำอะไรกินได้บ้าง เมนูแกง อาหารป่า รสจัดจ้าน สมุนไพรต่างๆ ดีต่อสุขภาพ

thumbnail

สูตรแกงส้มปลาช่อนผักรวม อาหารพื้นบ้าน เมนูแกงอร่อยๆ

 แกงส้มปลาช่อนผักรวม อาหารง่ายๆจากปลาช่อน เมนูพื้นบ้านยอดนิยม วิธีทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม ไม่ยากทำกินเองได้ อาหารสุขภาพ เมนูปลา พร้อมเคล็ดลับการทำอาหารจากต้นตำรับ


สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอแกงพื้นบ้านง่ายๆ รสเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นสมุนไพร คือ แกงส้มปลาช่อนผักรวม เคล็ดลับความอร่อยของแกงส้มปลาช่อนผักรวม คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ ซึ่งความอร่อยของแกงส้มอยู่ที่น้ำแกง ความกลมกล่อม เปรี้ยว เค็ม และ หวาน ทานคู่กับผักต่างๆและเนื้อปลาเป็นเอกลักษณ์ของเมนูแกงส้ม

สูตรแกงส้มปลาช่อนผักรวม อาหารไทย อร่อยๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูปลา

ส่วนผสมสำหรับทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

  • ปลาช่อน 1 ตัว (หั่นเป็นท่อนๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน)
  • น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนโต้ะ ( พริกชี้ฟ้าแห้ง พริกขี้หนูแห้ง พริกจินดาแดง หอมแดง กระเทียม กระชาย เกลือ และ กะปิ)
  • ผักกระเฉด 1 กำมือ หั่นเป็นท่อนๆ
  • หัวไชเท้า 2 ชิ้น
  • ดอกแค 1 กำมืิิอ
  • ฟักทอง 1 กำมือ (หั่นเป็นชื้น)
  • มะละกอดิบ 1 กำมือ (หั่นเป็นชิ้น)
  • ถั่วฝักยาว 2 เส้น (หั่นพอคำ)
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
  • ผักกาดขาว หั่นเป็นชิ้นพอคำ

วิธีทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

  1. เริ่มจากการเตรียมเนื้อปลาก่อน ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดใส่ปลาช่อนลงไปต้ม กับตะไคร้และใบมะกรูด เพื่อช่วยดับคาว ต้มจนสุก
  2. จากนั้นนำปลาช่อนที่ต้มสุกแล้ว นำมาแกะเนื้อเฉพาะเนื้อ จากนั้นนำน้ำพริกแกงส้มมาโขรกรวมกับเนื้อปลาช่อนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ส่วนเนื้อปลาอีกครึ่งหนึ่งให้นำมาคลุกแป้งมัน ตั้งกระทะนำมันให้ไฟร้อน ใส่เนื้อปลาช่อนลงไปทอดให้ผิวภายนอกเหลืองสุก ไม่ต้องทอดนาน เราทอดให้เนื้อปลาช่อนเกาะตัวไม่เละ จากนั้นให้พักปลาช่อนทอดเอาไว้ก่อน
  4. เริ่มทำแกง โดยใส่น้ำลงหม้อต้ม ต้มให้น้ำเดือด ใส่น้ำพริกส้มที่โขรกกับเนื้อปลาช่อนลงไปต้ม ช่วงนี้ให้ใช้ไฟแรงให้พริกแกงหอม
  5. ใส่หัวไชท้าว มะละกอดิบ และ ฟักทองลงไปต้ม
  6. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และ น้ำมะขามเปียก
  7. จากนั้นใส่ เนื้อปลาช่อนทอด ดอกแค ผักกระเฉดและถั่วฝักยาว ลงไปต้ม ไม่ต้องต้มนาน ปิดไฟ
  8. เสริฟใส่ชามพร้อมรับประทาน

เคล็ดลับการทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

  1. ปลาช่อนให้เลือกใช้ปลาช่อนนา ขนาด 7 ขีด จะเป็นปลาช่อนขนาดที่ใหญ่พอดี มีเนื้อมากพอ และ เลือกซื้อปลาช่อนที่สดๆ เทคนิคการเลือกซื้อปลาช่อน ให้ดูที่เหงือกปลาต้องแดงสด ตาปลาใส ไม่ขุ่น ลักษณะของตัวปลาสมบูรณ์ ไม่มีแผล เกร็ดสมบูรณ์ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
  2. เทคนิคการเตรียมปลาช่อน ให้ขอดเกร็ดออก เอาเหงือกออก ผ่าท้องเอาไส้และขี้ออก ล้างให้สะอาด เทคนิคการล้างปลาให้ใช้เกลือ และ แป้งมันในการถูตัวปลาให้เมือกของตัวปลาออก
  3. เนื้อปลาช่อนเมื่อสุกจะเละไม่น่ารับประทาน ยิ่งการนำปลามาทำแกงด้วยแล้ว เทคนิคการทำให้เนื้อปลาคงรูปไม่เละ ให้นำปลาไปทอดก่อน เนื้อปลาทอดจะไม่เละ คงรูปเนื้อปลา
  4. เนื้อปลาในแกงจะมี 2 ส่วน คือ เนื้อปลาต้ม นำมาโขรกให้ละเอียดผสมในน้ำแกง และ เนื้อปลาทอด ใส่ลงไปในแกงให้รสชาติของเนื้อปลา
  5. แกงส้มหากทิ้งน้ำแกงให้เย็นค้างไว้หนึ่งคืน น้ำแกงส้มจะหวานอร่อยเค้มข้น น่ารับประทาน
  6. การปรุงรสเปรี้ยวของแกงส้มจะใช้ความเปรี้ยวของมะขามเปียก จะได้ทั้งความหวานและเปรี้ยว เหมาะสำหรับเมนูแกงส้ม
  7. หัวไชท้าวและฟักทอง สุกยากให้ใส่ลงไปต้มก่อนและรอให้สุกก่อน จึงค่อยปรุงรสและใส่ส่วนผสมที่เหลือ
  8. ผักที่สุกง่ายให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจากผักอาจเละไม่น่ารับประทาน

แกงส้มปลาช่อน อาหารพื้นบ้าน ยอดนิยม ขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนชอบอาหารไทย เมนูอาหารสุดโปรด กับข้าวจากปลาช่อน

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรแกงคั่วฟักไก่ อาหารไทย เมนูแกงกะทิ แสนอร่อย

 แกงคั่วฟักไก่ สูตรอาหารแสนอร่อย เมนูแกงกะทิ วิธีทำแกงคั่วฟักไก่ ไม่ยากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ อาหารไทยแบบง่ายๆ เมนูไก่ อาหารพื้นบ้านยอดนิยม ไก่ทำอะไรกินดี

สูตรอาหารแสนอร่อย เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารแบบง่ายๆ เมนูพื้นเมือง คือ แกงคั่วฟักไก่ เคล็ดลับความอร่อยของแกงคั่วฟักไก่ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ ซึ่งเอกลักษณ์ของแกงคั่ว คือ สีของน้ำแกง  น้ำแกงสีแดงอความหอมและมันของพริกแกงเผ็ดและกะทิ

สูตรแกงคั่วฟักไก่ อาหารไทยยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูอาหารเหนือ

ส่วนผสมสำหรับทำแกงคั่วฟักไก่

    ฟักเขียว 1 ถ้วย หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
    เนื้อไก่ 1 ถ้วย หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
    พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด หั่นเฉียงยาวๆ
    หัวกะทิ 1 ถ้วย
    หางกะทิ 1 ถ้วย
    พริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต้ะ
    น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
    น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
    น้ำมะขามเปี๊ยก 2 ช้อนโต้ะ
    ใบโหระพา 1 กำมือ
    ใบมะกรูด 3 ใบ นำมาหั่นฝอย

วิธีทำแกงคั่วฟักไก่

    เริ่มจากการตั้งกระทำ นำหัวกะทิและพริดแกงเผ็ดลงไปคั่วในกระทะ ให้กะทิแตกมัน
    จากนั้นจึงใส่ เนื้อไก่ และ ฟักเขียวลงไปผัด
    ใส่หากกะทิลงไป และ ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และ น้ำมะขามเปียก ปรุงจนได้รสที่พอใจ
    ใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา และ พริกขี้หนูสวนลงไป ต้มอีกสักพัก ก็ให้ปิดไฟ เสร็ฟพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำแกงคั่วฟักไก่

    เนื้อไก่ สำหรับ นำมาทำแกงคั่วฟักไก่ นั้นให้เลือกเนื้อไก่ที่สดใหม่ โดยเทคนิคการเลือกซื้อไก่ ให้สังเกตุที่สีของเนื้อไก่ต้องแดงชมพู ลักษณะเนื้อเด้งตึง ไม่มีกลิ่นเหม็น หรือ สีเขียว
    เทคนิคการหั่นเนื้อไก่สำหรับเมนูนี้ให้หั่นหนาหน่อย เนื่องจากไก่จะต้องนำไปต้ม หากหั่นบางเนือไก่จะเละ หากไก่หนาๆ จะพอดี
    น้ำกะทิ สำหรับนำมาทำแกงคั่ว ให้เลือกใช้ น้ำกะทิคั้นสด น้ำกะทิคั้นสด จะให้ รสชาติ และ ความหอม ที่พอดี เหมาะสำหรับนำมาทำอาหารไทย โดยการทำน้ำกะทินั้น ให้กรองด้วยผ้าขาวบาง อย่าให้มีสิ่งสกปรก แปลกปลอม
    น้ำตาล สำหรับนำมาทำแกงคั่ว ให้เลือกใช้ น้ำตาลปี๊บ เนื่องจากมีความหวาน และ หอม ให้ความพอดี
    ใบมะกรุด ให้ เอาแกนกลางใบออก เนื่องจาก แกนกลางของใบ มีความขม หากนำมาทำอาหาร จะเสียรสชาติ
    ความเปรี้ยวของเมนูแกงคั่ว ไม่ใช้น้ำมะนาว ให้เลือกใช้ น้ำมะขามเปียก เนื่องจาก น้ำมะขามเปียก จะรสหวาน อมเปรี้ยว เพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหารเมนูนี้

แกงคั่วไก่ เป็นแกงกะทิใส่ฟักเขียว ไก่ รสชาติกลมกล่อม น่ารับประทานมาก เมนูบ้านๆแต่อร่อย อาหารภาคเหนือยอดนิยม คู่กับคนไทยมาช้านาน ใส่ น้ำพริกแกงคั่ว ลงไปผัดพอหอม ใส่ เนื้อไก่ ลงไปผัดพอพริกแกงเข้าเนื้อ ปรุงรสให้อร่อย เคล็ดลับการทำแกงคั่วฟักไก่ มีอะไรบ้าง

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรโจ๊กปลาเก๋า สูตรอาหารแบบง่ายๆ แสนอร่อย เมนูปลา

 โจ๊กปลาเก๋า อาหารแสนอร่อย เมนูอาหารเบาๆทานง่าย วิธีทำโจ๊กปลาเก๋า ไม่ยากสามารถทำกินเองได้ ข้าวเนียนนุ่ม หวานหอมน้ำุป เนื้อปลาอร่อยไม่คาว เป็นอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ


สูตรอาหารอร่อยๆ เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารเบาๆ เป็นอาหารเช้า คือ โจ๊ก แต่เป็นโจ๊กสูตรพิเศษ มีเนื้อปลาเก๋า เป็นส่วนประกอบ ได้อาหารอร่อย คือ โจ๊กปลาเก๋า อุดมไปด้วยประโยชน์จากสารอาหารมากมายของปลา ทั้ง โอเมกา3 ดีเอชเอ เหมาะสำหรับคนทุกวัย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ เนื้อปลาที่สดใหม่มีคุณภาพเพิ่มความอร่อยมากขึ้น

สูตรโจ๊กปลาเก๊า อาหารเมนูปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูโจ๊ก


ส่วนผสมสำรับทำโจ๊กปลาเก๋า

  • ข้าวหอมมะลิใหม่ 1/2 กิโล
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 3 ลิตร
  • กระดูกเล้ง 1 กิโลกรัม
  • เนื้อปลาเก๋า 1 ตัว หั่นให้พอดีคำ
  • ตะไคร้ 1 ต้น หั่นเป็นท่อน
  • ขิง 1 หัว นำมาซอยเป็นเส้น
  • ต้นหอม 1 ต้น ซอยบางๆ
  • คื่นช่าย 1 ต้น นำมาซอยบางๆ

วิธีทำโจ๊กปลาเก๋า

  1. เริ่มจากการนำข้าวหอมมะลิมาแช่น้ำและเกลือ ประมาณ 1 คืนก่อน
  2. เตรียมน้ำน้ำซุปโดย ต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือลงไป จากนั้นหรี่ไฟอ่อน นำกระดูกหมูลงไปต้ม ประมาณ 3 ชั่วโมง คอยช้อนฟองออกเป็นระยะๆ
  3. เมื่อได้น้ำซุปพร้อม ให้กรองเอาเฉพาะน้ำซุป ตั้งไฟให้เดือด ใส่ข้าวหอมมะลิลงไปต้ม คอยคลนอยู่เสมอ ระวังไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ ใช้เวลาต้มประมาณ 45 นาที จะได้ข้าวที่เละเป็นโจ๊กอร่อย พร้อมรับประทานได้ จากนั้นให้พักเอาไว้ก่อน
  4. เตรียมเนื้อปลา โดยตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ลงไป จากนั้นนำเนื้อปลาลงไปลวกให้สุก ก็นำออกมาแช่น้ำเย็นเอาไว้ ให้เนื้อปลาคงรูปไม่เละ
  5. เสริฟโจ๊กใส่ชาม โรยหน้าด้วยเนื้อปลาเก๋า ขิง ต้นหอมซอย และคื่นช่าย

เคล็ดลับการทำโจ๊กปลาเก๋า

  • หากระหว่างต้มข้าวเกิดปัญหาข้าวไหม้ติดก้นหม้อ อย่างัดข้าวไหม้ เพราะ โจ๊กหม้นนั้นจะกินไม่ได้เลย วิธีแก้ปัญหา คือ ให้เปลี่ยนหม้อใหม่ และ ต้มเฉพาะส่วนที่เหลือ ที่ยังไม่ติดก้นหม้อ
  • การเลือกปลาเก๋า ให้เลือกใช้ปลาที่สด ใหม่ โดยวัตถุดิบที่สด นั้นจะทำให้ได้อาหารที่อร่อย โดยไม่ต้องปรุงรสมาก การเลือกปลาที่สดๆ นั้น ให้ดูตาปลา ต้องใสๆ เหงือกยังสด สีแดงอยู่ เนื้อปลาแน่น ไม่นิ่ม เวลากด และยังเด่งอยู่ถือว่าใช้ได้
  • เทคนิคการเตรียมเนื้อปลาเก๋า ต้องนำมาล้างให้สะอาด โดยเทคนิคการล้างปลา ให้ใช้เกลือ ช่วยขัดผิวปลา ล้างให้เมือกที่หนังปลาออกใหม้หมด เมือกนี้แหละคือ ส่วนที่ทำให้ปลามีความคาว
  • เทคนิคการลวกปลา หากต้องการลดความคาว ให้ใส่ ตะไคร้ ลงไปด้วย เนื้อปลาจะลดความคาวลง น้ำจากการลวกปลาจะมีความคาวไม่ควรนำไปทำอาหาร
  • ข้าวสำหรับนำมาใช้ทำโจ๊ก ต้องเป็นข้าวหอมมะลิใหม่ ข้าวเวลาต้มจะนุ่มสวย น่ารับประทาน โดยก่อนนำมาต้มโจ๊กให้แช่น้ำไส้ก่อน 1 คืน ข้าวจะสุกง่ายและเละสวยน่ารับประทาน
  • น้ำซุป สำหรับ ต้มโจ๊ก นั้น หากใช้ น้ำซุปกระดูกหมู ได้จะดีมาก รสชาติของโจ๊กจะหวาน กลมกล่อม

โจ๊กปลาเก๋า อาหารเบาๆ ทานง่าย ทำจากปลา วิธีทำโจ๊กปลา ง่ายๆทำกินเองได้

thumbnail

สูตรต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน แกงอร่อยๆ เมนูปลา แบบง่ายๆ

 ต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน อาหารไทย อร่อยแน่นอน วิธีทำต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน ไม่ยากใครๆก็ทำกินเองได้ เมนูปลา แกงสมุนไพร ปลาช่อนทำอะไรกินได้บ้าง ปลาช่อนทำอะไรกินดี


อาหารยอดนิยม เมนูอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ สูตรอาหารแบบง่าย คือ ต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ ความอร่อยของน้ำแกง ความหวานของเนื้อปลา

สูตรต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน อาหารแบบพื้นบ้านแสนอร่อย ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่ายเหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน

  • ปลาช่อน 1 ตัว นำมาหั่นเป็นท่อน
  • ข่า 1 หัว นำมาฝานบางๆ
  • ตะไคร้ 1 ต้น นมาหั่นเป็นท่อน
  • ใบมะกรูด 4-5 ใบ
  • หอมแดง 3 หัว
  • พริกขี้หนูสวน 4-5 เม็ด นำมาโขรกหยาบๆ
  • เห็ดฟาง 1 ถ้วย หั่นครึ่ง
  • มะเขือเทศ 1 ลูก นำมาหั่นเป็นซีก
  • พริกทอด 3 เม็ด
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
  • ผักชีฝรั่ง 1 ต้น นำมาซอยหยาบๆ
  • ใบมะขามอ่อน 1 หยิบมือ

วิธีทำต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน

  1. เริ่มจากต้มน้ำให้เดือดนำเนื้อปลาช่อนลงไปลวกสะดุ้งน้ำให้สุก น้ำลวกปลาให้ทิ้งไปเลยและนำปลาช่อนลวกมาพักเอาไว้ก่อน
  2. จากนั้นเริ่มทำต้มยำโดยต้มน้ำในหม้อต้มให้เดือดจากนั้นผ่อนไฟให้อ่อนลง
  3. ใส่ ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไปต้มให้กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยค่อยๆออกมา
  4. จากนั้นใส่ เห็ดฟาง พริกขี้หนูสวน หอมแดงและใบมะขามอ่อนลงไป
  5. ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก
  6. ใส่ปลาช่อน มะเขือเทศ พริกแห้งและผักชีฝรั่งลงไป
  7. ปิดไฟ และปรุงรสด้วยน้ำมะนาวขั้นตอนสุดท้าย

เคล็ดลับการทำต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน

  • ใบมะขามอ่อน จะมีรสเปรี้ยว การใส่ส่วนผสม อื่นๆ ที่มีรสเปรี้ยวให้ใส่อย่างพอดี เช่น น้ำมะนาว และมะเขือเทศ
  • น้ำซุป ที่ใช้ใน การทำต้มยำ แนะนำให้ใช้ น้ำซุปกระดูกหมู จะเพิ่มความกลมกล่อมของน้ำซุปต้มยำ
  • ปลาช่อน ให้เลือกใช้ปลาช่อนที่สดใหม่และมีขนาดพอดี ซึ่งปลาช่อนขนาดพอดี ประมาณ 7 ขีด เทคนิคการเลือกปลาช่อนที่สดให้ สังเกิดจากตัวปลาต้องสมบูรณ์ ตาปลาใส เหงือกแดง เนื้อปลาแน่น ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว
  • การเตรียมปลาช่อน เทคนิคสำคัญคือ การล้างปลา ปลาที่ล้างสะอาดจะลดความคาวของเนื้อปลาลงได้ ให้ใช้เกลือ ในการช่วยล้าง และขัดเมือกที่ปลาออกให้หมด ขอดเกล็ดแลาอย่าให้เหลือ เนื่องจากเมือกปลาทำให้คาว เกล็ดปลาทำให้เสียรสชาติของปลาช่อน
  • การใส่ปลาช่อนลงไปต้ม ให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากปรุงรสต้มยำแล้ว โดยเร่งไฟให้เดือด และใส่ปลาลงไปต้ม และไม่ต้องคลน รอให้เนื้อปลาสุก
  • เทคนิคการลดความคาวของปลาอีกเคล็ดลับหนึ่ง คือ การลวกปลาทิ้งน้ำก่อน น้ำลวกปลาครั้งแรกจะมีความคาว ให้ทิ้งและใช้น้ำใหม่มาต้มปรุงรสชาติ ความคาวของเนื้อปลาจะลดลง
  • การต้มข่า ตะไคร้ และ ใบมะกรูด ให้ต้มในขั้นตอนแรก ต้มด้วยไปอ่อนๆ ให้ความหอมของสมุนไพร ออกมาอย่างเต็มที่
  • พริกสด ให้ใช้ พริกขี้หนูสวน ผสม พริกชี้ฟ้า จะได้รสชาติและสีสันที่อร่อย
  • น้ำมะนาว ไม่ให้ใส่ตอนน้ำเดือดจัด เพราะ จะทำให้น้ำซุปขม

ต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน  เป็น อาหารสุขภาพ อาหารไทยแบบง่าย ๆ ต้มยำน้ำใส รสจัดจ้าน ใส่ใบมะขามอ่อน รสเปรี้ยวทดแทนน้ำมะนาวได้ เหมาะสำหรับน่าร้อน ฤดูกาลที่มะนาวแพง แบบบ้านๆ ที่มีแต่ของดี เมนูสุขภาพ อุดมณ์ด้วยสมุนไพรไทยนานาชนิด

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรแกงหน่อไม้ใบย่างนาง อาหารอีสานแบบง่ายๆ เมนูหน่อไม้

 แกงหน่อไม้ใบย่างนาง เมนูแกงแบบอีสานแสนอร่อย อาหารพื้นบ้าน วิธีทำแกงหน่อไม้ใบย่านาง ไม่ยากใครๆก็สามารถทำกินเองได้ สูตรอาหารอร่อยๆ เมนูหน่อไม้ แกงปลาร้า

สูตรอาหารยอดนิยม เมนูอาหารแสนอร่อย สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารไทย อาหารอีสาน คือ แกงหน่อไม้ใบย่านาง ซึ่งเคล็ดลับความอร่อยของแกงหน่อไม้ใบย่านาง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ รสชาติของแกงที่กลมกล่อม หน่อไม้ที่ไม่เหนียวหรือแข็งเกินไป หอมผักต่างๆและใบย่างนาง

สูตรแกงหน่อไม้ใบย่านาง แกงอีสานยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำแกงหน่อไม้ใบย่านาง

    หน่อไม้อ่อน 2-3 หน่อ
    ปลาดุก 1 ตัว
    ยอดชะอม 2-3 ยอด
    ใบแมงลัก 1 กำมือ
    ใบย่านาง 1 กำมือ
    ปลาร้า 4 ช้อนโต้ะ
    น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
    ฟักทองหั่นเป็นชิ้นพอคำ 4-5 ชื้น
    เห็ดฟาง 5 ดอก นำมาหั่นซีก
    บวบ 5-6 ชิ้น นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
    พริกขี้หนูสวน 4-5 เม็ด บุบให้พอแตก
    หอมหัวแดง 3 หัว
    ตะไคร้ 1 ต้น นำมาหั่นเป็นท่อน
    ข้าวเหนียว 1 ช้อนโต้ะแช่น้ำ 1 คืน
    กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
    เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำแกงหน่อไม้ใบย่านาง

    เริ่มจากการล้างปลาดุกให้สะอาด เอาเครื่องในปลาออก โรยเกลือให้ทั่วตัวปลา และ นำไปย่างให้สุก จากนั้นแกะเอาเฉพาะเนื้อปลาดุก นำมาพักไว้ก่อน
    นำหน่อไม้สด ให้เลือกส่วนหน่อไม้อ่อน และ นำมาฝานเป็นแผ่นๆไม่หนาและไม่บางเกินไป จากนั้นนำไปต้มให้หน่อไม้สุกก่อน และ นำมาพักไว้ก่อน
    เตรียมเครื่องแกง โดยโขรก เนื้อปลาดุกย่าง พริกขี้หนูสวน หอมหัวแดง ตะไคร้ ข้าวเหนียว กะปิ และ เกลือ ให้ส่วนผสมละเอียดเข้ากัน
    เริ่มต้มแกง โดยต้มน้ำให้เดือดจากนั้นใส่เครื่องแกงที่เตรียมไว้ลงไปต้ม ใส่ เห็ดฟาง ฟักทอง และ บวบลงไปต้ม ต้มให้สุกก่อน
    ปรุงรสด้วย ปลาร้า และ น้ำปลา ซึ่งปรุงรสตามใจชอบ รสของแกงหน่อไม้จะออกเค็ม
    ขั้นตอนสุดท้ายใส่หน่อไม้ ยอดชะอม ใบแมงลัก และ ใบย่านางลงไป ต้มอีกสักครู่ก็ปิดไฟ
    เสริฟใส่ชามพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำแกงหน่อไม้ใบย่านาง

    การเลือกหน่อไม้ให้เลือกหน่อไม้อ่อน เนื่องจากหน่อไม้อ่อน เนื้อจะนุ่ม ไม่เหนียว ให้รสชาติอร่อย เหมาะสำหรับนำมาทำอาหารรับประทาน
    การเตรียมหน่อไม้ให้ล้างให้สะอาด นำมาหั่นให้พอดีรับประทานและนำไปต้มก่อน
    การเลือกซื้ิอปลาดุกให้เลือกปลาดุกตัวใหญ่ จะได้เนื้อปลามากๆหน่อย ซึ่งเทคนิคการเลือกซื้อปลาดุกให้เลือกซื้อปลาดุกที่ลักษณะตัวสมบูรณ์ ไม่มีแผล เนื้อผิวปลาแน่น เด้ง ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
    การล้างปลาดุก ให้ใช้เกลือและแป้งมันถูกปลาให้เมือกออกให้หมด และ ล้างให้สะอาด จะได้ปลาที่ไม่คาว
    เนื้อปลาดุก ให้นำไปย่างก่อน การย่างปลาดุก เพื่อเทคนิคการทำอาหารอย่างหนึ่ง เนื่องจากปลาดุก มีก้างเยอะ การนำไปย่างก่อน เพื่อที่จะทำให้ เนื้อปลาเวลาสุกไม่เละ และ การแกะเนื้อง่าย เอาก้างออกง่าย
    บวบ เป็นวัตถุดิบที่สุกยาก ดังนั้น การแกงหน่อไม้ ให้ใส่บวบในขั้นตอนแรก เวลาสุก จุได้บวบที่สุกพอดี บวบจะไม่เละ
    ฟักทอง เป็นวัตถุดิบที่สุกยาก ให้ใส่ฟักทองไปต้มในน้ำแกง พร้อมกับบวบ จะไดสุกพอดี
    ยอดชะอม และ ใบแมงลัก สุกง่าย ให้ ใส่ขั้นตอนสุดท้าย จะได้ ผักที่ยังหอมอยู่
    สำหรับคนที่ไม่ชอบเนื้อปลาดุก สามารถใช้เนื้ออื่นแทนได้ เช่น ไก่ หมูสามชั้น ตีนไก่ เป็นต้น

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรข้าวผัดอเมริกัน อาหารแบบง่ายๆแสนอร่อย ข้าวผัดสไตล์อเมริกัน

 ข้าวผัดอเมริกัน อาหารแบบง่ายๆแสนอร่อย เมนูข้าวผัด วิธีทำข้าวผัดอเมริกัน ไม่ยากใครๆก็ทำกินเองได้ อาหารจานด่วน พร้อมด้วยเคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัด อาหารไทย

สูตรอาหารแสนอร่อย เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอเนำเสนออาหารจานด่วนอร่อยๆ คือ ข้าวผัดอเมริกัน เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรข้าวผัดอเมริกัน อาหารไทย เมนูผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด



ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดอเมริกัน

    ข้าวหอมมะลิหุงสุก 1 จาน
    หอมหัวใหญ่ 2 ช้อนโต้ะ นำมาหั่นเต๋า
    แครอท 2 ช้อนโต้ะ นำมาหั่นเต๋า
    ไส้กรอก 2 แท่ง
    ไข่ไก่ 1 ฟอง
    น่องไก่ 2 ชิ้น
    ลูกเกต 1 ช้อนโต้ะ
    ถั่วลันเตา 1 ช้อนโต้ะ
    ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต้ะ
    ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
    ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
    น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
    น้ำมันพืช 1 ช้อนโต้ะ

วิธีทำข้าวผัดอเมริกัน

    เริ่มจากตั้งกระทะน้ำมัน ทอดไข่ดาว จากนั้นให้พักไข่ดาวเอาไว้ก่อน
    นำไส้กรอกไปนึ่งให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
    เตรียมไก่ทอด โดยนำไก่มาหมักกับซอสปรุงรสและพริกไทยไว้สักครู่ จากนั้นนำมาคลุกแป้งทอด และ นำไก่ลงไปทอดในน้ำมัน ให้เหลืองสุก จากนั้นให้พักเอาไว้ก่อน
    เริ่มทำข้าวผัด โดยตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่ ลูกเกต ถั่วลันเตา แครอทและ หอมหัวใหญ่ ลงไปผัด ให้พอหอม
    จากนั้นจึงใส่ข้าวหุงสุกลงไปผัด
    ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และ น้ำตาลทราย ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันกับข้าวผัดจนข้าวแห้ง
    เสริฟข้าวผัดใส่จาน จัดหน้าจานด้วย ไข่ดาว ไส้กรอก ไก่ทอด และ แฮม เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำข้าวผัดอเมริกัน

    ข้าวสำหรับนำมาทำข้าวผัด แนะนำให้ใช้ข้าวหอมมะลิเก่า เนื่องจากข้าวจะเป็นเม็ดสวยเวลาผัดแล้วข้าวจะไม่เละ ทำให้เสียความอร่อยของข้าวผัด
    เทคนิคการทำให้ข้าวผัดมีเม็ดสวยไม่เละ คือ การทำให้ข้าวแห้ง หรือ เย็นก่อน ให้นำเอาข้าวหุงสุกไปแช่ตู้เย็นไว้ก่อน ข้าวที่เย็นและแข็งตัว เวลาโดนความร้อนจะสุกและพอดีรับประทาน ในขณะที่ข้าวไม่เละ
    สำหรับกรณีที่ข้าวแข็งเกินไป เทคนิคการทำให้ข้าวนุ่มขึ้น คือ การใส่น้ำลงไปนิดหน่อย น้ำจะทำให้ข้าวมีความชื้นมากขึ้นและข้าวจะอ่อนตัวลง
    เทคนิคการผัดข้าวผัด ให้ใช้ไกปานกลาง อย่างใช้ไฟแรงหรืออ่อนเกินไป เพราะ หากไฟแรงไปข้าวจะไหม้ หากไฟอ่อนไปข้าวจะไม่ร้อนและแข็ง
    เทคนิคการทอดไข่ดาว ให้ใช้น้ำมันที่ร้อนแต่ให้ใช้ไฟอ่อนๆในการทอดไข่ดาว จะได้ไข่ดาวที่ไข่ขาวสวยและไข่แดงยังไม่สุก
    การทำข้าวผัดอเมริกัน นั้น เราจะไม่ใช้กระเทียม แต่ใส่หอมหัวใหญ่แทน ความหอมของหอมหัวใหญ่ จะให้รสหวาน หาก หอมหัวใหญ่โดนความร้อน
    ไม่ควรขยี้ลูกเกตุ เนื่องจากลูกเกตุจะมีรสหวาน หากยีลูกเกตให้แตก จะทำให้ข้าวหวานเกินไป
    น้ำมันสำหรับนำมาผัด ห้ามนำน้ำมันเก่ามาผัด เนื่องจากน้ำมันเก่าจะมีรสและกลิ่นของอาหารอื่นๆ ทำให้เสียรสชาติของอาหาร

ประวัติของข้าวผัดอเมริกัน

กำเนิดของข้าวผัดอเมริกันนั้นเป็นอาหารที่คุณหญิงสุรีพันธ์ ซึ่งในขณะนั้นทำงานเป็นผู้จัดการราชธานีภัตตาคาร  ภัตตาคารนี้เป็นแอร์พอร์ตเรสตัวรองต์ของกรมรถไฟอยู่ในสนามบินดอนเมือง คุณหญิงสุรีพันธ์ท่านเป็นผู้คิดและประยุกต์อาหารเมนูนี้ นำข้าวผัดอาหารที่มีมาทานร่วมกับไส้กรอก และ ไข่ดาว เป็นอาหารเช้าแบบอเมริกัน ต่อมาเมนูนี้ได้รับความนิยมรับประทาน คุณหญิงสุรีพันธ์ จึงได้ตั้งชื่ออาหารเมนูนี้ว่า อเมริกัน ฟรายด์ ไรซ์ หรือเรียกแบบไทยๆว่า ข้าวผัดอเมริกัน ข้าวผัดอเมริกันในขณะนั้นมีส่วนประกอบไม่แน่นอน บางวันข้าวผัดทานคู่กับ ไส้กรอก บางวันไก่อบ บางวันเนื้อทอด จนถึงปัจจุบัน ข้าวผัดเอมริกันจะทานคู่กับไก่ทอด แฮม และ ไข่ดาว

thumbnail

สูตรไก่ต้มน้ำปลา อาหารอร่อย รสชาติกลมกล่อม เมนูไก่

 ไก่ต้มน้ำปลา เมนูไก่ รสชาติอร่อย ทำง่าย วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา ไม่ยากทำกินเองได้ ไก่ทำอะไรกินได้บ้าง เครื่องปรุงรสมีอะไรบ้าง เคล็ดลับความอร่อยเป็นอย่างไร

สูตรอาหาร เมนูอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารง่ายๆ สำหรับกินในวันว่างๆ วันสังสรรค์ คือ ไก่ต้มน้ำปลา เคล็ดลับความอร่อยของไก่ต้มน้ำปลาอยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ ไก่ต้องรสชาติพอดี ไม่เค็มเกินไป

สูตรไก่ต้มน้ำปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารไม่ยาก เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูไก่



ส่วนผสมสำหรับทำไก่ต้มน้ำปลา

    ไก่ส่วนน่อง 2 ชิ้น
    รากผักชี 1 ราก นำมาบดให้ละเอียด
    ข่าหั่นแว่น 2 ชิ้น
    ตะไคร้ 1 ต้น นำมาหั่นเป็นท่อนและทุบ
    ใบมะกรูด 2 ใบ ฉีกแกนใบออก
    น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
    น้ำปลา 3 ช้อนโต้ะ
    ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต้ะ
    น้ำเปล่า 2 ลิตร

วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา

    เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำตาลลงไปคั่วด้วยไฟอ่อนๆ คั่วจนน้ำตาลเปลี่ยนสี
    จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป ใส่รากผักชี ตะไคร้ ข่า และ ใบมะกรูด ลงไปต้มด้วยไฟอ่อนๆให้กลิ่นหอมออก
    ปรุงรสด้วย น้ำปลา และ ซีอิ้วขาว
    เร่งไฟให้เดือดจากนั้นใส่เนื้อไก่ลงไปต้ม ประมาณ 10 นาที จากนั้นปิดไฟลงและแช่ไก่อีก 45 นาทีในกระทะที่ต้มไก่
    ระหว่างรอให้ไก่สุก เตรียมน้ำจิ้มสำหรับกินกับไก่ต้มน้ำปลา ประกอบด้วย น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกบด กระเทียมบด และ น้ำมะนาว ผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากัน
    นำไก่ออกมาสับให้มีขนาดพอดีคำ โรยหน้าด้วยผักชี ทานคู่กับน้ำจิ้ม

เทคนิคการทำไก่ต้มน้ำปลา

    การเลือกเนื้อไก่ เราเลือกใช้ส่วนน่องไก่ เนื้อจากเนื้อมีความมันอร่อยน่ารับประทาน หรือหากชอบรับประทานเป็นตัว ไก่ที่เหมาะสำหรับนำมาทำไก่ต้มน้ำปลา คือ ไก่ขนาด 7 ขีด ซึ่งเนื้อจะแน่น หนังจะสด ถ้าได้ไก่บ้านยิ่งอร่อย เนื่องจากเนื้อไก่มีมันน้อย
    ต้องเลือกไก่ที่สดใหม่ นำมาล้างให้สะอาดไก่จึงน่ารับประทาน
    การต้มไก่ให้ไก่สีสวยน่ารับประทาน คือ ต้มในน้ำเดือด 10นาที และปิดไฟปล่อยให้น้ำต้มระอุในตัวไก่อีก 45-60 นาที เราจะได้เนื้อไก่ที่เด้ง เนื้นนุ่ม อร่อย สุกพอดี
    เทคนิคการล้างไก่ เป็นเทคนิคลดกลิ่นคาวของไก่ ได้ดี ต้องล้างเครื่องใน ให้สะอาด ใช้เกลือขัดผิวไก่ และเนื้อไก่ ให้คราบมันซึ่งเป็น สาเหตุของความคาว ลดลง
    ไก่ต้อมน้ำปลาที่อร่อยๆ ต้องกินแบบสุกใหม่ๆ กินแบบร้อนๆ จึงจะได้ไก่ต้มน้ำปลาอร่อยๆ
    การเคี้ยวน้ำตาลให้เปลี่ยนสีทำให้ไม่ต้องใส่ซีอิ้วดำ ทำให้กลิ่นและความหวานอร่อย
    การต้มข่าและตะไคร้ ให้ต้มในไฟอ่อนๆให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยออกมาเต็มที่ทำให้ไก่อร่อยและหอม
    เทคนิคการทำน้ำจิ้มให้อร่อย ให้ผสมน้ำเดือดลงไปด้วย ความร้อนของน้ำเดือดจะทำให้ น้ำตาล พริก และกระเทียมออกรสชาติความหวานและลดกลิ่นของพริกเหม็นเขียว

ไก่ต้มน้ำปลา อาหารอร่อยยอดนิยม เมนูไก่ เหมาะสำหรับทานเล่นหรือทานเป็นกับแกล้ม วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา และเคล็ดลับความอร่อยมีอะไรบ้าง ทำอย่างไรไม่ให้เค็ม เรารวบรวมสูตรอาหารพร้อมด้วยเทคนิคการทำอาหาร สำหรับคนรักการทำอาหาร

thumbnail

สูตรไก่ผัดกะปิ อาหารแบบง่ายๆ เมนูผัด หอมอร่อยไม่เหมือนใคร

 ไก่ผัดกะปิ หรือ ไก่กะปิ อาหารผัดแบบง่ายๆแบบฉบับปักษ์ใต้ วิธีทำไก่ผัดกะปิ ไม่ยาก ง่ายๆสามารถทำกินเองได้ เมนูไก่ อร่อยๆ สำหรับคนรักการทำอาหารใต้ แบบง่ายๆ


สูตรอาหาร เมนูอาหารแนะสำหรับวันนี้ขอนำเสนออาหารพื้นบ้านภาคใต้เป็นเมนูผัดกะปิ คือ ไก่ผัดกะปิ เคล็ดลับความอร่อยของไก่ผัดกะปิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ เนื้อไก่ต้องสดๆ ผัดให้รสชาติพอดีไม่เค้มจัด

สูตรไก่ผัดกะปิ สูตรอาหารยอดนิยม เมนูไก่ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูไก่


ส่วนผสมสำหรับทำไก่กะปิ

  • เนื้อสะโพกไก่ 1 จาน นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
  • กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
  • กระเทียม 2 กลีบ นำมาบดให้ละเอียด
  • พริกขี้หนูสวน 4 เม็ด นำมาบดให้ละเอียด
  • ใบมะกรูด 2 ใบ นำมาซอยเล็กๆ
  • ใบโหระพา 1 หยิบมือ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมันพืช สำหรับผัดประมาณ 3 ช้อนโต้ะ

วิธีทำไก่กะปิ

  1. เริ่มจากการตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนใส่กระเทียมและพริกขี้หนูสวนลงไปผัดให้หอม กระเทียมออกเหลือง
  2. จากนั้นให้ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้สุก
  3. ปรุงรสด้วย กะปิ น้ำปลา และ น้ำตาลปี๊บ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันเติมน้ำลงไปนิดหน่อย
  4. ใส่ใบโหระพาและใบมะกรูด ลงไปผัดให้หอม ปิดไฟและเสริฟใส่จานพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำไก่กะปิ

  • กะปิ ใช้ กะปิอย่างดี ของ สุราษฐธานี จะมีความเค็ม และ ความหอม แบบธรรมชาติ
  • กะปิ เวลานำมาผัด ให้ขยี้กะปิกับกระทะ ให้กะปิสุก จะได้รสชาติและความหอมของกะปิ
  • ในระหว่างการปรุงรสหากส่วนผสมต่างๆแห้งเกินไปให้เติมน้ำลงไปนิดหน่อย
  • กระเทียม ให้เลือกใช้ กระเทียมจีน เนื่องจาก เนื้อกระเทียมมีมาก และ ความหอม แบบพอดีๆ ให้ เตรียมกระเทียม 2 ส่วน ส่วนแรก บดละเอียด อีกส่วนหนึ่ง ซอยเป็น แผ่นๆ
  • เนื้อไก่ ให้เลือกใช้ เนื้อไก่ ส่วนอกไก่ ให้เลือกเนื้อไก่ที่สดๆ ให้สังเกตุจาก สีของเนื้อไก่ และ ความแน่นและตึงของเนื้อไก่ ต้องแน่นและตึง เด้ง
  • น้ำตาล สำหรับ เมนูผัดกะปิ ให้เลือกใช้ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลปี๊บ จะมีความหวาน ที่พอดี สำหรับ เมนูผัดกะปิ
  • ใบมะกรูด ส่วนของแกงกลางใบจะมีความขม ให้แกะแกนใบออก ก่อนนำมาผัด
  • ไฟที่ใช้ทำ ผัดกะปิ ต้องใช้ไฟกลางๆ จะทำให้ ความหอมของอาหารพอดี
  • พริกสด สำหรับเมนูนี้ ให้ พริกหัวมัน เป็น พริกเม็ดใหญ่ เหมือนพริกหยวก แต่สีแดง มีรสชาติอร่อย

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

thumbnail

สูตรน้ำพริกอ่องทูน่า อาหารไทยแบบง่ายๆ แสนอร่อย

 น้ำพริกอ่องทูน่า อาหารพื้นบ้าน เมนูปลา วิธีทำน้ำพริกอ่องทูน่า ไม่ยากทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับการทำน้ำพริกเมืองเหนือมีอะไรบ้าง กับข้าวง่ายๆ สำหรับคนชอบทำอาหาร

สูตรอาหารง่ายๆ เมนูอาหารอร่อยๆ สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ น้ำพริกอ่อง เป็น น้ำพริกพื้นเมืองล้านนา ซึ่งลักษณะเด่นของน้ำพริกอ่อง คือ สีของสีมะเขือเทศและพริกแห้งที่เคี่ยวจนเป็นน้ำขลุกขลิก รสชาติของน้ำพริกจะกลมกล่อม ครบรสหวาน เปรี้ยว เค็ม เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรน้ำพริกอ่องทูน่า เมนูน้ำพริก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูสุขภาพ


ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกอ่องทูน่า

    เนื้อปลาทูน่ากระป๋อง 1 กระป๋อง
    พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต้ะ
    น้ำมันพืช 2 ช้อนโต้ะ
    มะเขือเทศ 2 ลูก นำมาหั่นเต๋า
    น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
    น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
    ต้นหอมซอย 1 หยิบมือ
    ผักสดต่างๆสำหรับทานกับน้ำพริก เช่น มะเขือเปราะ แตงกวา ถั่วพลู ถั่วฝักยาว เป็นต้น

วิธีทำน้ำพริกอ่องทูน่า

    เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมันและนำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด ใช่ไฟอ่อนๆค่อยๆผัดให้กลิ่นของเครื่องแกงออกมา
    ใส่เนื้อทูน่ากระป๋องลงไป ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
    ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และ น้ำปลา
    ใส่ มะเขือเทศ ลงไปผัด ผัดไปเรื่อยๆจนมะเขือเทศละลายเป็นเนื้อซอส
    ปิดไฟเสริฟใส่ถ้วยน้ำพริก โรยต้นหอม
    เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสริฟน้ำพริกอ่องทูน่า สำหรับทานกับผักสด

เคล็ดลับการทำน้ำพริกอ่องทูน่า

    มะเขือเทศ ที่ใช้ใน การทำน้ำพริกอ่อง นั้น ให้ใช้ มะเขือขนาดเล็ก เนื่องจาก มะเขือลูกเล็ก จะ มีรสเปรี้ยวอมหวาน
    ส่วนผสมของพริกแกงเผ็ด ประกอบด้วย หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง(แช่น้ำและเอาเม็ดพริกออก) ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เกลือ และ กะปิ โขรกให้ส่วนผสมละเอียดเป้นเนื้อเดียวกัน
    พริกแกงเผ็ด ให้ใช้ พริกแกงเผ็ด ที่สดใหม่ จะให้รสชาติที่หอม
    เทคนิคการผัดพริกแกงให้ใส่น้ำมันลงกระทะโดยไม่ต้องเปิดไฟ ใส่พริกแกงลงไป จึงค่อยเปิดไฟอ่อนๆ ให้พริกแกงค่อยๆร้อนและส่งกลิ่นหอมของเครื่องแกง ไม่ควรตั้งน้ำมันให้ร้อนเกินไป เพราะ พริกแกงจะไหม้ และ ไม่ให้รสชาติของสมุนไพรอย่างเต็มที่
    น้ำตาลเลือกใช้น้ำตาลปี๊บ โดยการปรุงให้ใส่น้ำปลาลงไปก่อน และ ค่อยๆเติมน้ำตาลลงไป ชิมจนได้รสชาติที่พอใจ
    สำหรับคนที่ไม่ชอบเนื้อปลาทูน่า สามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่นๆได้ เช่น เนื้อปลานิล เนื้อปลาช่อน หรือ เนื้อหมูสับ เป็นต้น
    ผักสดที่นำมาทานคู่กับน้ำพริกอ่อง ให้นำไปแช่เย็นก่อน ผักสดเย็นๆจะเพิ่มความอร่อยของน้ำพริกได้ และยังทำให้รู้สึกสดชื่นคลายร้อน
    รสชาติของน้ำพริกอ่องต้องมีความเปรี้ยว หวาน และ เค็ม ซึ่ง รสเค็มของพริกแกง และ เนื้อปลาทูน่ามีอยู่แล้ว การปรุงรสน้ำปลาให้ชิมรสก่อนใส่น้ำปลา และ เติมน้ำตาลลงไปทีหลัง ส่วนรสเปรี้ยวจะได้จากมะเขือเทศ แต่สำหรับรสเปรี้ยวหากไม่พอ ให้ใส่น้ำมะขามเปียกลงไปเพิ่มรสเปรี้ยว

น้ำพริกอ่องทูน่า อาหารเหนือ น้ำพริกพื้นบ้าน เมนูปลา วิธีทำน้ำพริกอ่องทูน่า วิธีทำน้ำพริกอ่อง ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ อาหารล้านนา น้ำพริก ผสมกับเนื้อปลาทูน่า กับข้าวง่ายๆ เมนูปลาทูน่า

thumbnail

สูตรยำหูหมู อาหารแบบง่ายๆ แสนอร่อย สำหรับคนชอบรสจัด

 ยำหูหมู อาหารรสจัดจ้าน เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้มในวันสังสรรค์ วิธีทำยำหูหมู ไม่ยากสามารถทำกินเองได้ หูหมูทำอะไรกินดี เมนูยำ เมนูหูหมู น้ำยำเคล็ดลับอย่างไร


เมนูอาหารแสนอร่อย สำหรับวันนี้ นำเสนอสูตรอาหารแบบง่าย ขอนำเสนอ ยำหูหมู น้ำยำรสจัดจ้าน หูหมูกรอบกรุบ เครื่องเคียงครบครัน เคล็ดลับความอร่อยของยำหูหมู คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรยำหูหมู เมนูหูหมู ยำอร่อยๆ แบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

ส่วนผสมสำหรับทำยำหูหมู

  • หูหมู 1 หู
  • แตงกวา 1 ลูก นำมาหั่นเป็นเส้น
  • คืนฉ่าย 1 ต้น นำมาซอย
  • มะเขือเทศ 1 ลูก นำมาหั่นซีก
  • หอมหัวใหญ่ ครึ่งลูก นำมาซอยเป็นเส้น
  • พริกขี้เหนูสวน 4 เม็ด นำมาบดละเอียด
  • กระเทียม 2 กลีบ บดละเอียด
  • ผักกาดหอม 3 – 4 ใบ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
  • ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต้ะ

วิธีทำยำหูหมู

  1. นำหูหมูมาล้างให้สะอาด จากนั้น เผาหูหมูให้ขนหาย จากนั้นใช้มีดโกนขูดผิวหมู ให้ขนออกให้หมด
  2. ต้มน้ำให้เดือด นำหูหมูลงไปต้มให้สุก จากนั้นนำมาซอยเป็ยชิ้นขนาดพอดีคำ
  3. ปรุงรสน้ำยำ โดย ใส่น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนูสวน และ กระเทียม ผสมให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน
  4. ใส่หูหมูลวกลงไป ใส่ ถั่วลิสง คื่นฉ่าย หอมหัวใหญ่ ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำยำ
  5. นำผักกาดหอมจัดจานให้สวยงาม และ เทยำที่ทำไว้ลงไป เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้

เคล็ดลับการทำยำหูหมู

  • การเลือกหูหมู ให้เลือกหูหมูที่สด โดยสังเกตุจากสีของหูหมูต้องดูสดๆ ไม่เน่า เนื้อแน่น ไม่มีเมือกเกาะหูหมู
  • การเตรียมหูหมู ให้นำหูหมูมาเผาขนก่อน และนำมาลวก และขูดผิวหูหมูอีกครั้งให้ขนที่หูหมูออก เพราะหูหมูมีขนแข็งและไม่น่ารับประทาน
  • การปรุงน้ำยำสำหรับทำยำหูหมู รสชาติจะต้องจัดจ้านเข้าไว้ โดย น้ำตาล น้ำปลา และ น้ำมะนาว นั้น อัตราส่วนเท่ากัน ส่วนความเผ็ดนั้น ตามใจชอบ
  • น้ำตาลที่เหมาะสำหรับนำมาทยำ ควรใช้น้ำตาลทราย เพราะ น้ำตาลมีความหวานและละลายง่าย เหมาะสำหรับนำมาทำอาหาร เมนูยำ
  • ถั่วลิสงคั่ว ต้องเลือกใช้ ถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ เนื่องจากความหอมของถั่วลิสงคั่ว จะทำให้รสชาติของอาหารอร่อยขึ้น
  • พริกสำหรับนำมาทำยำ ให้เลือกใช้ พริกขี้หนูสวน รสชาติและความเผ็ดมาก ถึงใจ

ยำหูหมู อาหารอร่อยๆ เมนูยำ วิธีทำยำหูหมู สามารถทำกินเองได้ หูหมูทำอะไรกินได้บ้าง น้ำยำหูหมูทำอย่างไร อาหารไทย รสจัดจ้าน สำหรับทุกๆคน

ผู้สนับสนุน

Labels

กระดูกหมู กระทิงแดง กระเทียม กระเทียมไทย กล้วยทอด ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเลิศรส ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก๋วยเตี๋ยวยักษ์ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ กวางตุ้ง กะปิ กะปิผัด กะเพราไก่ กะเพราไก่ไข่ดาว กะเพราไข่ริวกิว กะเพราทะเลไข่ริวกิว กะหล่ำทอดน้ำปลา กับข้าว การต้มไก่ การต้มขาหมู การตุ๋นเนื้อวัว การทอดไข่ดาว การทำยำม่าม่า การผัดกุ้ง การผัดแกงคั่ว การล้างกุ้ง กิน กินข้าวกัน กินดื่ม กุ้ง กุ้งกระจก กุ้งแม่น้ำสด กุ้งสด เกาเหลาไก่ตุ๋น เกี๊ยว แกง แกงกะทิ แกงคั่ว แกงคั่วใส่อะไรบ้าง แกงจืด แกงจืดไข่ม้วน แกงใต้ แกงเผ็ด แกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงส้ม แกงส้มชะอม แกงส้มชะอมไข่ แกงหน่อไม้ แกงเหลือง ไก่ ไก่แช่หล้าทำอย่างไร ไก่ต้มน้ำปลา ไก่ย่างวิเชียรบุรี ขนม ขนมจากมะพร้าว ขนมจีน ขนมจีนทะเลเดือดคลั๊กๆ ขนมไทย ขนมปังกระเทียม ขนมปังชุบไข่ ขนมหวาน ขนมหวานจากขิง ของหวาน ขั้นตอนทำไส้ย่าง ข้าว ข้าวคั่ว ข้าวเช้า ข้าวญี่ปุ่น ข้าวต้มมัด “ข้าวต้มลูกโยน” ข้าวผัด ข้าวผัดปลากระป๋อง ข้าวผัดอเมริกัน ข้าวมัน ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด ขิง ขึ้นฉ่าย เข้าครัว เขียง มะขาม ไข่ ไข่ดาว ไข่ตุ๋น ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น ไข่มดดิน ไข่เยี่ยวม้า ไข่ออนเซ็น คริสต์มาสอีฟดินเนอร์ คาคาชิ คิดเมนูอาหาร เครื่องดืม เครื่องเทศบะกุ๊ดเต๋ เคว เลมเปอร์ เคาหยก เคื่องดืม จ.พิษณุโลก จานเด็ด 77 จังหวัด แจกสูตร แจกสูตร ต้มแซ่บ ฉ่ำ ชวน ชะอมไข่ ชะอมทอดกรอบ ชามยักษ์ ชิม ชีส เมนู ชุ่ม แช่น้ำปลา แชร์เก็บไว้เลย ซอสเคาหยก ซอสราดหน้า ซีฟู้ด ซีอิ๊ว ซีอิ๊วขาว “ซูมัน” ดอกกะหล่ ดื่ม แดง แม่กลอง แดดยับบุฟเฟ่ต์ โดนัท ต้นหอม ต้ม ต้มไก่ ต้มไข่ปลา ต้มแซ่บ ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ต้มยำ ต้มยำปลาช่อน ตะไคร้ ตำถาด ตำถาดตำกุ้ง ตำไทยไข่เค็ม ติ่มซำ ตุ๋นไข่ เต้าหู้ ถั่ว ถั่วงอก ทะเล ทะเลเดือดคลั๊กๆ ทำกินเอง ทำไก่แช่เหล้า ทำข้าวมัน ทำไข่ตุ๋น ทำไมปลาคาว ทำยำ ทำอะไรกินดี ทำอาหาร ทำอาหารกินเอง เทคนิคการตุ๋นเนื้อวัว เทศกาลกินปลาทูแม่กลอง น้ำแกงบะกุ๊ดเต๋ น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด น้ำจิ้มหมูกระทะ น้ำซุปกระดูก น้ำเต้าหู้ น้ำปลา น้ำพริก น้ำพริกกะปิ น้ำพริกกากหมู น้ำพริกแกง น้ำพริกแกงเขียวหวาน น้ำพริกแกงเผ็ด น้ำพริกแกงเหลือง น้ำพริกจากกากหมู น้ำพริกแดง น้ำพริกเต้าหู้ยี้ น้ำพริกไทย น้ำพริกปลา น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกปลาร้าผัด น้ำพริกปลาร้าสับ น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกเผา น้ำพริกเหนือ น้ำพริกอ่อง น้ำพริกอ่องทูน่า น้ำมะขามเปียก น้ำมันพืช น้ำยำ น้ำสลัด น้ำสลัดลาบแซ่บ นึ่ง นุ่ม เนยสดชนิดเค็ม เนื้อไก่ เนื้อตุ๋นหม้อดิน เนื้อย่าง แนะนำสูตรอาหาร บ๊วย บะหมี่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บัวลอย บัวลอยน้ำขิง บางแพ บาร์บีคิว เบคอน ใบมะกรูด ใบย่านาง ปลากระป๋อง ปลาช่อน ปลาช่อนทะเล(ไล้กอ) ปลาแซลมอน ปลาดิบ ปลาทู ปลาทูแม่กลอง ปลานึ่งมะนาว ปลาหมึก ปลาหมึกย่าง ปิ้งย่าง โปรโมชั่น ผัก ผักรวม ผัด ผัดกระเพราทะเล ผัดกะปิ ผัดผักกวางตุ้ง ผัดผักกวางตุ้งหมูสับ ผัดผักกะหล่ำ ผัดพะโล้ ผัดมะละกอ เผ็ดลิ้นชา แผ่นเกี๊ยว พริก พริกขี้หนู พริกขี้หนูสวน พริกป่น พริกสด พะโล้ พะโล้ทำอย่างไร มะพร้าวแก้ว มะพร้าวแก้วใบเตย มามาแซบๆ มือเช้า เมนน้ำพริก เมนูกุ้ง เมนูกุ้งผัด เมนูแกง เมนูแกงจืดไข่ม้วน เมนูไก่ เมนูไข่ เมนูเครื่องดื่ม เมนูง่าย เมนูเจ เมนูโจ๊ก เมนูชะอม เมนูแช่เหล้า เมนูดอกกาแฟ เมนูต้นอ่อนทานตะวัน เมนูต้มยำ เมนูตำ เมนูตุ๋น เมนูเต้าหู้ เมนูเต้าหู้ยี้ เมนูทอด เมนูทะเล เมนูท่านเล่น เมนูนึ่ง ตุ๋น ลวก เมนูเนื้อ เมนูเบิ้ลข้าว เมนูปลา เมนูปลาแซลมอน เมนูปลาหมึก เมนูผัด เมนูพริกหยวก เมนูมะละกอ เมนูยำ เมนูยำมาม่า เมนูราดหน้า เมนูลาบ เมนูวัว เมนูวุ้นเส้น เมนูเส้น เมนูไส้ย่าง เมนูหน่อไม้ เมนูหม้อดิน เมนูหมึก เมนูหมู เมนูหมูตุ๋น เมนูหมูสามชั้นหมูสามชั้นพะโล้ เมนูหอย เมนูหัวปลา เมนูหูหมู เมนูอบ เมนูอาหาร เมนูอาหารเช้า เมนูอาหารว่าง เมี่ยงทะเล แมนูแกงเผ็ดเป็ดย่าง แม่อ้อ ยายนาง ยำ ยำขนมจีน ยำชะอม ยำปลาแซลมอน ยำปูม้า ยำมาม่า ยำม่าม่า ยำวุ้นเส้น ยำไส้กรอก ยำหอยนางรม รสแซบ รากผักชี ราชบุรีหลากหลาย ราชรี ราดหน้าฮ่องกง ร้านอาหาร รีวิว รีวิวกุ้งถัง รีวิวขนมไทย รีวิวทาโร่ รีวิวมาม่า รีวิวมาม่าซือดะ รีวิวร้านอาาหารญี่ปุ่น รีวิวส้มตำ รีวิวอาหาร รีวิวอาหารเกาหลี รีวิอาหาร แรงเยอร์ ลาบไก่ ลาบไก่ รสแซบ ลาบแซ่บ ลิโพวิติน-ดี ลุยพริก ลูกชิ้น วิธีการทำเต้าหู้ วิธีการทำน้ำเต้าหู้ วิธีการทำบ๊ะจ่าง วิธีทำกุ้งย่าง วิธีทำแกงขาหมู วิธีทำแกงคั่ว วิธีทำแกงคั่วปลาดุก วิธีทำแกงคั่วฟักไก่ วิธีทำแกงป่าปลาช่อน วิธีทำแกงส้ม วิธีทำแกงหน่อไม้ วิธีทําไก่ต้มน้ำปลา วิธีทำข้าวผัด วิธีทำไข่ทอดสามรส วิธีทำไข่อบชีสพริกหยวก วิธีทำโจ๊ก วิธีทำโจ๊กปลา วิธีทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวน้ำใส วิธีทำน้ำพริกแดง วิธีทำน้ำพริกเต้าหู้ยี้ วิธีทำน้ำพริกอ่องทูน่า วิธีทำบัวลอยน้ำขิง วิธีทำปลาผัดพะโล้ วิธีทำผัดกะปิไก่ วิธีทำผัดไก่กะปิ วิธีทำยำไส้กรอก วิธีทำยำหอยนางรม วิธีทำยำหูหมู วิธีทำไส้ย่าง สตูรเมี่ยง สตูรเมี่ยงทะเล ส้มตำ ส้มตำกุ้งสด สลัด สลัดเนื้อย่าง ส่วนผสมของข้าวมัน ส่วนผสมของน้ำยำ ส่วนผสมไข่ตุ๋น สวรรค์ในครัว สอนทำข้าวมันไก่ สอนทำอาหาร สะโพกไก่ สุตรต้มไข่ปลา สุตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวน้ำใส สูตร สูตรกล้วยทอด สูตรก๋วยเตี๋ยว สูตรก๋วยเตี๋ยวเป็ด สูตรกะเพรา สูตรการทำบ๊ะจ่าง สูตรกุ้งย่าง สูตรแกงขาหมูต้มผักกาดดอง สูตรแกงป่า สูตรแกงป่าปลาช่อน สูตรแกงเผ็ดเป็ดย่าง สูตรแกงส้ม สูตรแกงส้มปลาช่อน สูตรแกงหน่อไม้ สูตรแกงเหลือง สูตรไก่ต้มน้ำปลา สูตรขนมไทย สูตรขนมปัง สูตรขนมปังชุบไข่ สูตรขนมหวาน สูตรข้าวผัดอเมริกัน สูตรข้าวมัน สูตรไข่ทอดสามรส สูตรเคาหยก สูตรโคราช สูตรซุป สูตรซุปเนื้อ สูตรเด็ดอร่อย สูตรต้มจืด สูตรต้มยำ สูตรต้มยำปลาช่อน สูตรตำ สูตรทำอาหาร สูตรน้ำพริก สูตรน้ำพริกกะปิ สูตรน้ำพริกกากหมู สูตรน้ำพริกแดง สูตรน้ำพริกเต้าหู้ยี้ สูตรน้ำพริกปลาสลิด สูตรน้ำยำปลาร้า สูตรน้ำยำหอยนางรม สูตรน้ำส้มคั้น สูตรนี้ต้องลอง สูตรบะกุ๊ดเต๋ สูตรบ๊ะจ่าง สูตรปลาหมึกย่าง สูตรผัดกระเพรา สูตรผัดผักกวางตุ้งหมูสับ สูตรเมนูน้ำพริก สูตรเมี่ยงคำ สูตรยำ สูตรยำมาม่า สูตรยำม่าม่า สูตรราดหน้า สูตรราดหน้าฮ่องกง สูตรลาบ สูตรลาบปลาหมึก สูตรลาบหมู สูตรลุยพริก สูตรวิธีทำ สูตรวิธีทำตำไทยไข่เค็ม สูตรวิธีทำ ลาบไก่ รสแซบ สูตรไส้ย่าง สูตรหมัก สูตรหัวปลาหม้อดิน สูตรอาหาร สูตรอาหารง่ายๆ สูตรอาหารจีน สูตรอาหารเจ สูตรอาหารไทย สูตรอาหารยอดนิยม เส้ขนมจีนข้าวกล้อง เส้น เส้นขนมจีน เส้นหมี่ เส้นใหญ่ ไส้กรอก หมวดอาหารไทย หมวดอาหารนานาชาติ หม่าล่า หมูทอด หมูพะโล้ หมูสามชั้นทอด หลากหลาย หอมแขก หอมแดง หอยนางรม หอหมก หัวกะทิ หัวปลาหม้อดินใส่อะไรบ้าง หากินตามร้านไม่ได้ หุงข้าว หูหมูยำ เห็ด เห็ดหอม อร่อย อาหาร อาหารกลางวัน อาหารกวางตุ้ง อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารเกาหลี อาหารข้าวญี่ปุ่น อาหารจานเดียว อาหารจีน อาหารเช้า อาหารแต่ละประเทศ อาหารทะเล อาหารเที่ยง อาหารไทย อาหารนานาชาติ อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารภาคกลาง อาหารยำ อาหารโรงเรียน อาหารว่าง อาหารสุขภาพ อาหารหวาน อาหารแห้ง อิตาเลี่ยน อิ่มอร่อย อีสานพาสวบ food foodthreviews garlic Bread Kfc kofukuu m-150 MacDonald pizza

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม